13.12.55

ก่อนฟ้าเปลี่ยนสี / November Sky

November Sky in the evening, end of rainy season

พฤศจิกาทิ้งท้ายปลายฝนด้วยฟ้าสีหม่นตลอดวันลอยกระทง
เมฆไม่เป็นก้อนแต่แผ่เป็นผืนเหมือนม่านหนาพรางท้องฟ้าทั้งหมดไว้
วันนั้นฉันไม่เห็นพระอาทิตย์ ไม่เห็นพระจันทร์
เหมือนวันคืนได้เข้าใกล้กันมากกว่าวันคืนอื่นใด
อย่างช้า ๆ อย่างอ่อนโยนจนกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน

ฟ้าหม่นมัวค่อยหม่นมืดลงเรื่อย ๆ เหมือนเพิ่มชั้นผ้าม่านทีละชั้น ๆ
กระนั้นฟ้าก็ยังสวย
อ่อนหวานนุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่ห่อหุ้มความสงัดเงียบที่รู้สึกไว้หลวม ๆ
ฉันไม่เคยมองความงามเหล่านี้เพื่อตั้งคำถามกับตนเอง
ไม่ได้มองหาบทเรียนใดจากสิ่งที่เห็น
เพียงดื่มด่ำความงามในชั่วขณะที่เกิดขึ้นต่อหน้า
บทเรียนใดจะตามมาภายหน้าอย่างไรหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของกระบวนการ

ฉันชอบอยู่กับธรรมชาติ แต่เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันก็น้อยเต็มที
ฉันชอบอยู่กับผู้คน
แต่เรามักต้องอยู่กับผู้คนมากจนบางครั้งเราเหลียวมองไปอีกทิศทางหนึ่ง
ทิศทางที่เราจะได้อยู่กับตัวเอง

เราไม่ได้อยู่กับตัวเองเพราะต้องการใช้ความคิดเสมอไป
บ่อยครั้งเพียงเพื่อเราจะได้หยุดคิด
นั่งสบาย ๆ นั่งเฉยๆ ทอดยอดไปเหมือนเถาไม้เลื้อย
ความคิดใดจะผ่านมาผ่านไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง


ถึงวันนี้ ธันวามาถึงแล้ว และฟ้าก็เปลี่ยนสี


Evening Sky in December Bangkok, Thailand


 อากาศเริ่มแห้ง มีความกรุบกรอบเปลี่ยนแปลกที่คุ้นเคยบอกเราว่า ฤดูหนาวแบบไทย ๆ กำลังจะมาถึง
ธันวานำท้องฟ้าใส ๆ เมฆเบา ๆ บาง ๆ มาฝาก จนทำให้ต้องถ่ายรูปเก็บไว้
ฉันเขียนบทกวี "เก็บท้องฟ้าเอาไว้ ไมใช่เดือนดาว"
... ความอ่อนโยนทำให้ฉันเปราะบาง

คริสต์มาสต์นี้ที่บ้านจะพร้อมหน้ากันมากกว่าคริสต์มาสต์หลายปีที่ผ่านไป
ฉันคิดถึงคนที่จากไป และคนที่ไม่อยู่ 

เวลาที่ใช้กับผู้เป็นที่รักในชีวิต จริงเท่ากับเวลาที่เราใช้คิดถึงพวกเขา
ทั้งสองช่วงเวลาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคน

เราเก็บเวลาไว้ไม่ได้ เก็บได้แต่ช่วงเวลา
เราเก็บชีวิตคนที่เรารักไว้ไม่ได้ เก็บได้แต่ความรัก
  สุดท้ายแล้ว
เราก็ได้แต่เก็บท้องฟ้าเอาไว้ ไม่ใช่เดือนดาว
เราทำได้แค่นี้จริง ๆ



*

ฟ้าใสแสนสวยต้นเดือนธันวา "เก็บท้องฟ้าเอาไว้ ไม่ใช่เดือนดาว"


*

Evening Sky in November, Bangkok Thailand

ไม่มีความคิดเห็น:

หน้าเว็บ