1.10.56

แผ่นเสียงสะสมของเจดี / JD's records collection



เคยบ้างมั้ยคะที่ตั้งใจทำอย่างหนึ่ง พอเริ่มลงมือก็ไปพบเจอสิ่งน่าสนใจที่ใกล้ตัวกว่า
ตั้งใจหารูปห้องทำงานนักเขียนโลก ก็พบว่าเรื่องราวในชีวิตของพวกเขา
ถ้อยคำทั้งที่เขียนในหนังสือและในบทสัมภาษณ์นั้นน่าสนใจกว่า
ได้บทความเขียนโดยมุราคามิ ลงในนิวยอร์ค ไทม์ส อ่านประโยคแรกถึงกับอึ้งเลย
ก็นักเขียนเขียนถึงตัวเองนี่คะ
แล้วจะแปลมาลง น่าสนใจมาก เพลงที่เขาพูดถึงก็เป็นเพลงในบ้าน


หาภาพห้องทำงานนักเขียนระดับโลกกลับไปเจอภาพมุราคามิที่แจ๊สบาร์"พีเตอร์ แคท"กับแผ่นเสียงสะสมและห้องเก็บแผ่นเสียงของเขา

Haruki Murakami at his jazz bar, Peter Cat, in Sendagaya, Tokyo, 1978.

ห้องเก็บแผ่นเสียงของมุราคามิไม่รู้ไปสิ้นสุดลงตรงไหน

Murakami's records collection room


ทำให้เห็นภาพจำลองห้องเก็บแผ่นเสียงของเจดีในอนาคต
แผ่นเสียงของเจดีส่วนใหญ่เดินทางมาจากอเมริกาและอังกฤษ
เจดีเหมือนได้ของขวัญทุกครั้งที่แผ่นเสียงที่สั่งไปมาถึง
ก่อนมาถึงก็เฝ้ารอ
เลยได้ตื่นเต้นไปด้วยเวลาเจดีเอามาให้ดูพร้อมเรื่องเล่า แต่ละปกเจ๋งและเก๋าจริง ๆ
จนคิดจะถ่ายภาพปกแผ่นเสียง(ทุกปก)มาลงไว้ในไฟล์
เจดีบอกว่าแสกนเอาจะดีกว่า ไปดูแสกนเนอร์แล้ว กว้างไม่พอ

อย่างนี้ถ่ายรูปดีกว่า




















ปกของแผ่นเสียงเก่า ๆ ก็น่าสนใจพอกับปกหนังสือ
เจดีสะสมแผ่นเสียงเก่าที่อยากได้
แต่ที่อยากได้ที่สุดจะเป็นยุค 40 ที่ราคาแพงมาก แผ่นหนึ่งก็หลายหมื่นบาท
จึงต้องห้ามใจตัวเองไว้ก่อน แต่ความอยากก็หยุดได้ยาก
^^
เห็นใจ
ตอนนี้มีอยู่ไม่น้อย ตั้งใจว่าจะทยอยถ่ายรูปมาเก็บไว้ให้
แผ่นเสียงแผ่นหนึ่งหายไป (อาจหาไม่เจอเอง)
เจดีบอกว่า แผ่นนั้นราคาขายอยู่ที่สองหมื่น
โอย
ดังนั้น คงต้องช่วยถ่ายรูปเก็บไว้ให้จะได้ไม่หลงลืม
แต่ก่อนอื่นเจดีคงจะต้องเก็บเงินทำตู้เก็บแผ่นเสียงก่อน
ไปหาซื้อตู้หลายครั้งแล้ว ความกว้างไม่พอ
ค่าตู้ที่จะสั่งทำก็คงแพงไม่น้อย

คนนึงมีเงินก็ซื้อต้นไม้ ต้นไม้มีชีวิต
อีกคนนึงซื้อแผ่นเสียง
เพลงก็มีชีวิตเหมือนกัน
ต้นไม้ต้นหนึ่งมีชีวิตยืนยาว (ยกเว้นต้นไม้ลัมไม่ลุก กับต้นไม้ล้มลุก)
บางเพลงก็มีชีวิตยืนยาวได้เหมือนกัน
อาจยืนยาวยิ่งกว่าต้นไม้บางต้นเสียอีก 


*


หน้าเว็บ