30.1.55

เล่าให้ฟัง Things we talk (After the flood 2)























แม่จากไปแล้วแต่กลับรู้สึกว่าแม่อยู่ใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม คิดถึงและฝันถึงบ่อยๆ
ความคิดถึงที่แตกต่าง แม่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป
รู้สึกว่าตัวเองช่างคิดขึ้นมาก เวลาไม่มั่นใจกับความคิดใด ก็ลองถามแม่ดู
ถาม..โดยแม่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ...
แต่แม่อยู่ที่นั่นเสมอ

คำตอบที่ได้ชัดเจนยิ่งกว่าเมื่อแม่บอกด้วยตัวเองเสียอีก

ความช่างคิดที่เติบโตอาจเป็นกลไกที่ทำให้มองและเห็นเหตุการณ์น้ำท่วมและหลังจากนั้นด้วยมุมมองสำหรับตัวเอง

ก่อนน้ำท่วม บางคนเตือนให้เก็บของขึ้นชั้นบน ไม่ท่วมก็ไม่เป็นไร เตรียมการไว้ชั้นหนึ่งก่อน
ฟังขึ้นจึงเริ่มเก็บของอย่างมีระบบ ของบนโต๊ะ ของในตู้ ทีละลิ้นชัก ทีละชั้น
แบ่งเป็นสัดส่วนเพื่อตอนจัดกลับเข้าที่จะได้ง่ายและเร็ว

ขณะจัดของ ถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไมสะสมของไว้มากมายอย่างนี้
แก้วจากสวีเดนเป็นตู้ ไม่ใช่ชิ้นเล็กกระจุกกระจิก เป็นชิ้นใหญ่ๆ และขนาดกลาง เก็บลำบาก ต้องห่ออย่างดีก่อนเข้าลัง
หนังสือนับไม่ถ้วน
เอกสารสำคัญ เยอะแยะ ต้องดูดีๆถี่ถ้วน

ครัว โอ ช่างมากมาย ชุดทานข้าวกี่ชุด

คนหนีน้ำต้องการอะไรมั่ง ช่างน้อยนิดนัก เก็บไปสัญญาไป บอกตัวเองว่า จะคิดให้มากก่อนซื้ออะไรใหม่
ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอย่างไม่ครบ เพราะของถูกเก็บขึ้นข้างบนหมดแล้ว
ชีวิตช่างง่ายดายน่าดู

โอ น้ำไม่มาซักที

วางแผน ถ้าน้ำท่วม จะย้ายครัวขึ้นระเบียงหลัง คนทำกับข้าวจะได้ชมงามดอกคูณที่กำลังออกดอก


ระเบียงกลางใหญ่กว่าระเบียงหลัง เราจะใช้เป็นที่นั่งเล่น ทานอาหาร สังสรรค์และรับแขกถ้ามี
ต้นไม้กระถางจะย้ายหนีน้ำขึ้นไปตกแต่งส่วนนี้ให้น่านั่ง
ระเบียงหน้าเล็กๆจะเป็นที่เก็บขยะ ถุงปูนขาว และของใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

น้ำยังไม่มา

เมื่อน้ำมา น้ำไม่ได้ไหลบ่าเหมือนสายน้ำ กลับเป็นน้ำซึมขึ้นมาที่ถนน น้ำไม่มาถึงเนินลาดจากรั้วซักที

น้ำเข้ารั้วมาแล้วสูงขึ้นวันละเซนต์ เจดีวัดระดับน้ำที่จุดเดิมทุกวัน น้ำมาช้ามาก

เริ่มได้รับโทรศัพท์ชวนเชิญให้ไปพักที่โน่นที่นี่
เพื่อนชวนไปพักบ้านบนเขาที่สระบุรี ทนายที่สนิทสนมกับครอบครัวเชิญไปพักที่บ้านบนเขาใหญ่
ทุกคำเชิญรวมหมาทั้งสี่ตัว ^^
โอ แต่เราตื่นเต้นกับการมาของน้ำมาก !

เจดียังคงวัดระดับน้ำ ณ จุดเดิม ถึงแม้ว่าเธอต้องสวมบู้ทแล้ว ดูเธอเคลื่อนไหวด้วยลีลาของจังหวะหัวใจที่เต้นลงจังหวะ ที่ช้ามาก...
น้ำเข้ามาในสวนแล้ว แต่เข้ามาทางหลังบ้านก่อน เจดีผสมปูนยาประตูหลังอย่างเรียบร้อยสวยงาม ดูสบายๆไม่เหน็ดเหนื่อย
"ทำไมไม่ใช้ซิลิโคน" "ยากเปล่าๆ ตอนเอาออก" เป็นคำตอบ ดูซิคิดเลยไปโน่นแล้ว

น้ำคืบคลานเข้ามาในสวน คืบคลานเข้าใกล้ตัวบ้าน
น้ำเข้ามาเรื่อยๆอย่างช้าๆและแน่นอนเหมือนมีชีวิต

เจดีนำฟองน้ำที่เตรียมไว้ผูกเชือกฟางอุดท่อในห้องน้ำ ปลายเชือกโผ่ลออกมาไว้ดึงตอนรื้อ แล้วเธอก็ยาแนวอย่างสวยงามเรียบร้อยอย่างเคย นี่คือตรงท่อระบายน้ำ อ่างล้างมือและอื่นๆก็ปล่อยไว้ก่อน
เธอทำเช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างอีกห้อง

น้ำไม่ท่วมซักที เรายังคงเดินจากบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่งในรั้วเดียวได้อย่างสะดวก คุณตามาอยู่กับเราแล้ว
ไม่มีคนงาน ไม่มีใครช่วยเราทั้งนั้น บ้านของพวกเขาจมอยู่ในน้ำ

น้ำใต้หน้าต่าง
เช้าหนึ่งตื่นมา รีบลงมาโผล่หน้ามองออกไป โอ อยากเห็นปลาจัง
เมื่ออยากเห็นปลา ปลาก็มาให้เห็น ตอนแรกเห็นตัวเดียว แล้วก็สองตัว แล้วก็เห็นปลาตัวเล็กๆเป็นฝูง
พวกมันมาว่ายให้เราดู น้ำใสแจ๋ว แสงแดดกระทบน้ำสะท้อนขึ้นไปจับต้นไม้ในสวน เป็นริ้วที่เคลื่อนไหว ช่างสวยงาม
ทำไมเราจึงตื่นเต้นและมีความสุขขนาดนี้
คงเป็นเพราะเราชอบน้ำ

ความสุขในตอนเช้าคือเมื่อได้โผล่หน้าดูฝูงปลาที่หน้าต่าง และแล้วก็ประตู ไม่กี่วัน พวกปลาก็มาว่ายเวียนอย่างสบายอยู่ที่ลานทางเดินระหว่างบ้านสองหลัง

ต้นไม้ยังดูสบายดี ดูพวกมันไม่รู้สึกรู้สากับน้ำที่มาอยู่ด้วยหลายวันแล้ว

เราเริ่มโรยปูนขาวจำนวนไม่น้อยลงในน้ำ เราใช้ปั้มปั่นน้ำให้เคลื่อนไหว ความสนุกอย่างหนึ่งคือเมื่อได้ปีนออกไปนั่งห้อยเท้าบนเก้าอี้รากไม้แล้วใช้ไม้ไผ่ยาวตีน้ำ เราไม่อยากให้น้ำเน่า เราไม่อยากให้ปลาตาย

จนแล้วจนรอด น้ำหยุดอยู่ที่สิบเซนต์ใต้ประตูตัวบ้าน น้ำไม่ได้ไหลเข้าบ้าน บ้านเราเหมือนลอยอยู่กลางน้ำจนเจดีอยากได้บ้านแบบนี้เอาจริงๆ

และแล้วน้ำก็เริ่มลด ใช้โอกาสนี้เช็ดชั้นในตู้ ลิ้นชักทุกลิ้นชักที่ว่างเปล่าแล้วนำของลงมาทีละชั้น มาเช็ดถูทำความสะอาด ทุกอย่างในชีวิตทำงานเกือบเป็นอัมพาต สิ่งอื่นจึงมีชีวิตชีวาน่าตื่นใจ
ตู้และข้าวของไม่เคยส่องประกายขนาดนี้มานานปี

สิ่งของที่ใช้ทำความสะอาดก็ล้วนเป็นของหาง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม

ขวดแก้วเหลี่ยมจากสวีเดนที่คนทำงานบ่นว่าไม่รู้จะทำให้ใสสะอาดยังไง ก็ใช้ผลึกเกลือเม็ดธรรมชาติกับน้ำส้มสายชูแล้วเขย่า ใสขึ้นทันตา สดใสสวยงามเหมือนตอนซื้อมา

หนังสือยังเก็บไว้ในห้องชั้นบน ลุงจูคนช่วยทำสวน บ้านเดิมอยู่เชียงใหม่ ยืนยันหัวชนผา ปีพญานาคน้ำหลาก

ของในห้องข้างล่างลดลง ห้องดูโปร่งโถงขึ้นมาก

นับจำนวนผ้าปูโต๊ะอาหารที่มีจนหยุดนับ รักมากทุกผืน แต่มีมากเหลือเกิน มีมากเกินไปเพราะเป็นคนชอบผ้า ไปถึงที่ไหนก็จะซื้อมาเก็บไว้ แล้วยังที่คนเอามาฝากอีกล่ะ

ยังดีที่ไม่ได้ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้ย้ายของใหญ่แม้เพียงสักชิ้น

ต้นไม้ในสวนตายไปสามต้น เป็นไม้เลื้อยและไม้พุ่มขนาดกลางที่จะเก็บไว้เล่าในคราวหน้า

ของที่ตระเตียมไว้ในยามฉุกเฉินยังอยู่ครบเผื่อใช้

ในยามยาก มีไม่กี่อย่างที่คนเราต้องการจริงๆ

มีไม่กี่อย่าง

จะไม่ลืมเลย


*




28.1.55

ที่มี ทีดำรง และที่ได้มา 1 (After The Flood 2011)

มะลิซ้อน Rose Jasmine
















แม่เคยบอกว่า คนที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจะเข้าใจชีวิต
รักต้นไม้ สายน้ำ แสงแดด สายลมมาตั้งแต่เด็ก
...เพราะแม่

พูดไม่ได้เลยว่า รักไปเอง

หลังน้ำท่วมพบว่าต้นไม้ที่ทนน้ำท่วมไม่ไหวมีต้นอะไรบ้าง
บางทีอาจน่าจดจำชื่อของต้นไม้ที่ตายจากเหล่านั้น
แต่สำคัญกว่าที่จะกล่าวนามต้นไม้ที่มีและยังดำรงอยู่ในสวนของเรา


พูดถึงไม้ใหญ่ให้ดอก


ตะเบบูญ่า หรือ ชมพูพันธ์ทิพย์ Tabeuia Rosia














ตะเบบูญ่า หรือชมพูพันธ์ทิพย์ Tabeuia Rosia ออกดอกชมพูพรูพราว
มักเก็บดอกร่วงของมันมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน



ดอกปีป กาสะลอง Tree Jasmine
















ปีบ ต้นนี้มีแต่ชื่อเพราะๆทั้งนั้นเลย
กาสะลอง Tree Jasmine, Maramalli
ต้นที่บ้านออกช่อดอกใหญ่สมบูรณ์หลังน้ำท่วม
ดอกนี้ต้องวางไว้ข้างตะเบบูญ่าเพราะมีกลิ่นหอม ชื่นใจ



ดอกคูณ ราชพฤกษ์ Golden Shower
 














ต้นคูณ หรือชัยพฤกษ์ ชื่อภาษาอังกฤษ Golden Shower (สายทอง)
Cassis Fistula Linn ^^
ต้นนี้ไม่เก็บดอกทั้งที่สามารถเอื้อมถึงจากระเบียงหลัง ปล่อยไว้เป็นม่านห้องนอน
ช่อดอกไม้เหลืองในกรอบหน้าต่างขาว


"ฉันไม่รู้สึกว่าพวกเธอต้องอดทนเลย
ตะเบบูญ่า คูณ และปีบ
ฉันรู้สึกว่าพวกเธอ ไม่ต้องอดทนเลย"




*

ครั้งนี้พูดถึงต้นไม้"ที่มี และ"ที่ยังคงดำรงอยู่"
ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ
กำลังพอดีสำหรับคนเขียน
น่าจะพอดีสำหรับคนอ่านด้วย

ต้นไม้ทั้งสาม ยืนยันให้ปลูกค่ะ
ไม่ตายจริงๆ งามอีกต่างหาก

 *

23.1.55

มิราของฉัน My Mira


มิราของฉัน


บานเย็น Marvel of Peru (Mirabilis Jalapa)


ผู้หญิงถูกเปรียบเปรยเป็นดอกไม้ แต่ดอกไม้แต่ละชนิดเหมาะสมกับดิน แสงเงาต่างกัน ต้องการน้ำไม่เท่ากัน จะเหมือนกันได้อย่างไรในเมื่อต่างให้ดอก ให้สี ให้กลิ่นที่แตกต่าง 
ดอกไม้บางชนิดยังเกิดมาเพื่อกินแมลงโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังทั้งแมลงดีแมลงเลว

คงเพราะธรรมชาติไม่ตัดสิน ไม่มีดีเลว มีเพียงสัจธรรม

สัปดาห์ที่ผ่านไป ริจัดสวนครั้งใหญ่หลังน้ำท่วม เลือกกลุ่มสีที่กลมกลืนและสนับสนุนกันมาไว้ด้วยกัน
“บานเย็น”ชมพูฉุดฉาดออกดอกทุกวัน คลี่บานให้กลิ่นหอมยามเย็น 
ในวัยเยาว์เห็นท่านผู้ใหญ่นำมาเสียบก้านมะพร้าวเหมือนร้อยมะลิ ปักแจกันบูชาพระ 
บางทีก็สลับสีชมพูดสดกับเหลืองสว่างและสีขาว 

บานเย็นหอมหวานทุกเย็นย่ำ เตือนให้นึกถึงภาพและกลิ่นเก่าก่อน 

พุ่มบานเย็นถูกนำไปเกาะกลุ่มอยู่ใต้ต้น”เฟื่องฟ้าดอกแดงที่คุณยายเรียกว่า”ดอกตรุษจีน” บานเต็มต้นช่วงตรุษจีน
สีจัดจ้านอ่อนโยนลงด้วยช่อดอกสีชมพูอ่อนของดอกความสุขที่คนสวนเรียกว่าดอก”แฮ้ปปี้เนส” 
แซม”บอน”ใบเขียวลายชมพูสลับขาว 
เพิ่มความสุขุมลุ่มลึกด้วยต้น”ผีเสื้อ”ใบบางคล้ายโคลเวอร์สีม่วงเข้มที่มีลายสีชมพูอมม่วงเท่ๆอยู่บริเวณเส้นใบ 
ดอกอ่อนช้อยผลิบานม่วงอ่อนเกือบขาวอยู่บนก้านสีเขียวเกือบขาว บอบบางเช่นเดียวกับก้านใบ 
สะอาดตาดีแท้ อ่อนโยนกับหัวใจ 
ต้นผีเสื้อหลบอยู่ข้างไม้เลื้อย”หัวใจสีม่วง” ที่ใบม่วงของมันมีสีน้ำเงินมากกว่า ให้ดอกกระจิ๊ดเหมือนเอาผ้านิ่มสีม่วงอ่อนๆมาจีบให้เป็นดอก

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มชมพู แดง ม่วง เชื่อมโยงกันด้วยเขียวใบไม้

แม่เคยบอกว่าได้ต้นไม้มาอย่าเพิ่งลงดิน 
ให้นำกระถางต้นไม้ไปตั้งไว้ในที่ต่างๆแล้วดูว่ามันเหมาะสมกับที่นั้นหรือไม่ 
เมื่อต้นไม้ดูสดชื่นสมบูรณ์ ถ้าอยากลงดินก็ให้ปลูกตรงนั้นเลย 

บานเย็นอยู่กลางแดดเปรี้ยงมานาน กระถางก็ตั้งอยู่บนคอนกรีตใกล้ทางเข้าตัวบ้าน 
ชื่นใจได้กลิ่นหอมเวลาเดินเข้าออกบ้านในยามเย็นยามค่ำ
เมื่อถูกย้ายไปในที่มีร่มเงาอยู่บ้าง แสงแดดเปรี้ยงที่เข้าใจว่าทรมานบานเย็น ก็ลดลง 
บานเย็นทรุดโทรมเพียงข้ามวัน 
เฝ้ามองอยู่อีกวันด้วยยึดโทนสีเป็นหลัก บานเย็นต้นงามก็โทรมลงอย่างเหลือเชื่อ 
ต้องนำกลับมาไว้ที่เดิม ที่ ๆ มีแดดเปรี้ยงทั้งวัน

สรุปได้ว่าโทนสีไม่ทำงานกับธรรมชาติของต้นไม้ 
แสงแดดร้อนแสบผิวคนในวินาที แทนที่บานเย็นจะทนทุกข์ กลับเริงร่า 
ธรรมชาติของมันชอบอย่างนั้น 

ธรรมชาติของบานเย็นคล้ายธรรมชาติของผู้หญิงอย่างบานเย็น

สรุปได้อีกว่า... 
สิ่งสำคัญที่สุดคือแผ่นดินที่บานเย็นอยู่  
ไม่ใช่การรวมกลุ่มของสี ไม่ว่าจะเป็นสีอะไรก็ตาม



 

*

^^
ประวัติสั้นๆ
บานเย็นมีชื่อภาษาละตินว่า มิราบิลิส จาลาพา (Mirabilis jalapa) หรือ มหัศจรรย์แห่งเปรู (Marvel of Peru) เพราะถิ่นกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาแอนดิสในเปรู หรือดอกสี่โมง ตามเวลาที่คลี่บาน 
ในประเทศจีน เรียกบานเย็นว่า "ดอกสายฝน" (Shower Flower) หรือ "ดอกหุงข้าว" (Rice Boiling Flower) เพราะบานตอนหุงข้าวเย็นพอดี ฮ่องกง เรียกว่า "มะลิม่วง" (Purple Jasmine)

ข้อมูลเพิ่มเติมจากวิกิพีเดีย ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้




หน้าเว็บ