แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ Through The Big Window แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ Through The Big Window แสดงบทความทั้งหมด

21.7.57

วันสบาย แดดบ่ายในหน้าฝน / One Sunny Afternoon in Rainny Season


Chocolate cake

ข้างกระจกบานใหญ่ในร้านคอฟฟี่แอนด์เค้ก
ฉันละเลียดเค้กช็อกโกแล็ตนิ่ม ๆ อิ่มเอมขณะมันละลายอยู่ในปาก
มองผ่านผู้คนในร้านและผู้คนบนทางเท้า


1.

ผู้หญิงคนนั้น เฝ้าคอยเขาผู้ไม่เคยจากไป
เคียงข้างเขาผู้ไม่เคยกลับมา


2.

ลูกโป่งที่บรรจุความครึกครื้นก้อนใหญ่อยู่ที่โต๊ะมุมห้อง
เสียงหัวเราะดังกว่าใครจากชายหนุ่มคนหนึ่งเรียงตัวโน๊ตสากลเป็นเพลงมนุษย์ที่มีชื่อว่าสุดหรรษา
เพลงที่ทำให้คนไม่ได้บรรเลงได้ยิ้ม


3.

หญิงชรากระโผลกกระเผลกอย่างกระฉับกระเฉงไปบนฟุตปาต
ไม่มีใครรู้ว่า เธอจะไปไหน
เสียงไม้เท้ากระทบพื้นคอนกรีต ป้อก ป้อก ป้อก
เสียง ที่ทำให้คนหันมองก่อนละสายตา


4.

สาวสวยอุ้มหมาขนฟูเข้ามาในร้านตรงไปเลือกเค้ก
หญิงโต๊ะติดกันกระซิบชื่อดาราให้เพื่อนได้ยิน
เผื่อแผ่มาถึงฉันโดยไม่ตั้งใจ
ชายหนุ่มตามเข้ามารับกล่องเค้กแล้วจ่ายเงิน
ทั้งสองออกจากร้านไป
ฉันยังคงได้ยินประวัติแฟนหนุ่มและดาราบวกคำนินทาเล็กน้อยไปอีกนาน


5.

คนหนึ่งเคยบอกฉันว่า อิสระภาพนั้นไร้ขอบเขต
 ฉันย้อนถาม อิสระภาพจะมีขอบเขตได้อย่างไร

บางคนพูดถึงอิสระภาพที่มีขอบเขต
ฉันนึกหาคำแทน 'อิสระภาพ' ที่เหมาะสมกับข้อกำหนด 'ที่มีขอบเขต' ยังไม่ได้
ถ้าใช้ "อิสระภาพในบางกรณี" น่าจะดีกว่า

อิสระภาพในขอบเขตคงเป็นขอบเขตไร้เดียงสา
ความไร้เดียงสาทำให้ไม่มีขอบเขต


มองไปรอบ ๆ  ฉันชอบความรู้สึกนี้
ผู้คนหลากหลายมากมีที่เหมือนและแตกต่างอยู่ในความเป็นคน
ความเป็นเรา

เค้กหมดไปแล้ว
ฉันยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ




*





25.3.57

คำสั้น ๆ ที่ได้ยินบ่อย ๆ / Word we often hear




คำสั้น ๆ ที่ได้ยินบ่อย ๆ
"เบื่อ"

 ความรู้สึกเบื่อ เป็นสัญญาณเตือนว่าเราต้องการความเปลี่ยนแปลง
อาจเป็นความต้องการเปลี่ยนแปลงสถานที่ ผู้คนรอบตัว 
หรืออยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เปลี่ยนสถานการณ์ เหตุการณ์รายล้อม
หรือเปลี่ยนทุกอย่าง




 ผลลัพท์จากสัญญาณเตือนนี้จะลงเอยอย่างไร
ขึ้นอยู่กับความคิด การไตร่ตรอง และการลงมือทำ
ความคิดที่ขาดการไตร่ตรองอาจพาคนเบื่อไปช้อปปิ้งสิ่งไม่จำเป็นมารกบ้าน
กินอาหารจนเกินอิ่ม ดื่มจนเกินเมา
สิ่งจุกจิกพวกนี้รวมอยู่ในหัวข้อเดียวกัน
คือ ใช้เงินแก้เบื่อ
เพื่อจะพบว่าตัวเองกลับมาเบื่อเหมือนเดิม
เกิดห่วงโซ่ใช้เงินแก้เบื่อที่ทับถมตนเอง
 



บางคนจัดห้อง ทาสีห้องใหม่ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ จัดสวนใหม่
เป็นการใช้เงิน ใช้เวลา อาจรวมไปถึงแรงกายและหยาดเหงื่อไว้ด้วย
การแก้เบื่อด้วยวิธีนี้ส่งผลที่ดีกว่า ให้ผลระยะยาวกว่าแบบแรก




บางคนหางานอดิเรกทำ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ด้วยการหาหนังสืออ่าน ออกเดินทาง พบผู้คน เข้าคอร์ส
ใช้เงินเหมือนกัน แต่อาจได้วิชา มุมมอง และเพื่อนพ้องใหม่ ๆ ติดตัว



  ส่วนการเปลี่ยนแปลงตัวเอง 
เปลี่ยนมุมมองและทัศนคติที่มีต่อตัวเอง ต่อสิ่งต่าง ๆ และผู้คนรอบข้าง 
เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสังคม ต่อโลก 
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่ค่อยนึกถึง
ทั้ง ๆ ที่เริ่มได้ทันที และทำได้ง่ายที่สุดเพราะเริ่มต้นจากตนเอง



 
ถ้าเบื่อตัวเอง
ถามว่า เราชอบอยู่ใกล้คนขึ้เบื่อไหม
เบื่อคนขึ้เบื่อไหม
ถ้าคำตอบคือใช่ ก็เลิกเบื่อตัวเองเสียที
ถ้าคำตอบคือไม่ ก็อย่าบ่นหรือทำตัวน่าเบื่อกับเหล่าคนที่ไม่อยากรู้เห็น




จะแก้เบื่อด้วยวิธีใดเป็นเรื่องของแต่ละคน
เพียงแต่แก้ความเบื่อนั้นด้วยใจที่สุขสบาย
ถ้าไม่ ก็ไม่ใช่วิธีแก้เบื่อที่เหมาะกับเรา
โดยเฉพาะเมื่อวิธีแก้เบื่อที่เราเลือก ไม่ได้ปลดเปลื้องพันธนาการจากความเบื่อที่น่าเบื่อ
แต่กลับทำให้เราเบื่อมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หากเป็นอย่างนั้น จงดำดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความเบื่อ
เพื่อที่จะพุ่งผลุดขึ้นจากความเบื่อที่กลืนกิน
และเริ่มต้นใหม่สู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า
ที่ตัวเราเอง

 


*

2.2.56

คนมีฝีมือ / The Master


เรามักเรียกคนมีฝีมือว่าคนเก่ง
จนลืมไปว่า คนเก่งคือคนมีฝีมือ




คนมีฝีมือถึงอย่างไรก็มีฝีมือ
ไม่ว่าใครจะบอกว่างานไม่ดี ฝีมือไม่ถึง
คนมีฝีมือก็ยังคงเป็นคนเก่ง
ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบเขา
ก็ไม่อาจลดทอนหรือลบล้างฝีมือของเขาได้


ผ่านชีวิตมีประสบการณ์ ยิ่งเห็นโอกาสของคนมีฝีมือถูกบั่นทอน
บางคราวถึงกับเหยียบย่ำให้ต่ำลง
และบ่อยครั้งเปรียบเสมือนปีนขึ้นไปเพื่อทำให้ตนสูงขึ้น
คนมีฝีมือหลาย ๆ คนล่าถอยไปทำอย่างอื่นเพราะไม่อยากต่อกร
เขาจึงถูกกลืนหายไปในคลื่นแห่งเวลา

บางคนยืนหยัด ไม่วางมือ ไม่ยอมแพ้
บางคนใช้เวลาไม่นานก็เห็นผลอย่างชากัล
บางคนใช้เวลานาน
บางคนนานมาก
บางคนตายไปจึงกลายเป็นบุคคลของโลกอย่างวินเซนต์ แวน โก๊ะห์
ทฤษฎีสู่ความสำเร็จที่ตนปรารถนาคือทำงานต่อไป
ไม่วางมือ มุ่งมั่นและยืนหยัด
พิสูจน์ด้วยผลงาน


ได้พบได้คุยกับเพื่อนสองคนที่เป็นคนมีฝีมือ
ต้องพบเจออุปสรรคยิบย่อยจากเรื่องน่ารำคาญจนถึงขั้นบ่อนทำลายจากเพื่อนร่วมงาน
ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกเพราะต้องทำงานร่วมกัน ต้องเจอหน้ากันทุกวัน
อาจคิดล้างมือแล้วเดินจากไป
แต่ถึงวันนี้ผลงานของเธอได้พิสูจน์ตัวตนของมันและตัวตนของเธอแล้วโดยไม่ต้องแจกแจง


อีกคนเจอระบบเสียงข้างมาก น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ
แต่เธอยังคงยืนหยัดอยู่ในโพรเจ็คท์ที่เธอเป็นผู้ก่อเกิด ที่เคยเป็นลูกน้อยของเธอ
เชื่อว่าวันหนึ่ง บทพิสูจน์จะมาถึงด้วยผลงานที่เธอตั้งใจทำอย่างจริงจังด้วยความรัก


เขียนเพราะอยากบอกคนมีฝีมือที่อาจพบเจออุปสรรคที่เกิดจากคน
อยากให้กำลังใจ อยากบอกว่าอย่าวางมือ ทำต่อไป 
ผลงานจะแสดงตัวของมันออกมาอย่างโจ่งแจ้งด้วยความชื่นชอบของผู้เสพย์
ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สินค้า หรืองานศิลปะ
 ถึงเวลานั้นคนที่เชื่อมั่นในฝืมือจะภาคภูมิใจ
และคนที่กีดกันก็จะพ่ายไปเอง

บางครั้ง อุปสรรคไม่ได้มาจากคนนอกเท่านั้น
แต่เป็นคนในใกล้ชิด
เหมือนเช่นวินเซนต์ แวน โก๊ะห์ มีปัญหากับพ่อที่เป็นผู้เชี่ยวชาญค้าขายงานศิลปะ
ที่ไม่สนับสนุนแต่ยังขัดขวางถึงกับขุ่นเคืองและโกรธแค้น
แต่เขาก็ยังทำสิ่งที่เขารักต่อไป
วันนี้พวกเราจำชื่อและนามสกุลเขาได้ ก็เพราะโลกรักงานของเขา

วันวานเนิ่นนานก่อนเก่า เขาอาจไม่ใช่ผู้เป็นที่รักของโลก
แต่วันนี้ โลกรักเขาเพราะผลงานของเขามันฟ้อง
ป่าวร้องว่าผู้สร้างงานชิ้นนี้ สร้างมันขึ้นมาด้วยหัวใจ


สิ่งที่ทำด้วยความรัก ผ่านความคิด ผ่านสองมือของคนมีฝีมือ
พลังของคนทำจึงมาถึงคนเสพย์
ไม่มีใครลืมงานของพวกเขา
แม้กระทั่งงานแปลกแยกแสนโดดเด่นของปิคัสโซ่


คนมีปัญหาที่มาจากคนใน น่าจะหนักหนากว่าคนที่ประสบปัญหาจากภายนอก
เพราะเรามักคาดหวังว่าคนในจะยอมรับความรักความชอบของเรา
บางคนคาดหวังว่าจะได้รับความเข้าใจ
ลูกบางคนที่สิ้นหวังอาจอยากพูดกับพ่อว่า
"ไม่ต้องเข้าใจลูกหรอก แค่รักลูกก็พอ"

อิสระเสรีในการได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก เป็นพรอันประเสริฐ
คนที่มีอาจไม่รู้ว่ามันมีค่าแค่ไหนสำหรับคนไม่มี


คนมีฝีมือถึงอย่างไรก็มีฝีมือ
ไม่มีคำพูดใด สิ่งใด หรือใครสามารถลดทอนหรือลบล้างความมีฝีมือของเขาได้
นอกจากตัวเขาเองจะละทิ้ง
ดังนั้นจึงสมควรลบล้างอคติ
ชื่นชมและสนับสนุน


*

บทความที่เกี่ยวเนื่อง "เปลี่ยนไม่ได้"



*


23.1.56

บ้าน หรือ รวงรัง / A house is not a home

รวงรัง แสงและเงา / Light under shade: Bangkok, Thailand

บ้านอาจไม่ใช่รวงรัง แต่รวงรังคือบ้านที่แท้จริง


บ้านสร้างด้วยอิฐและปูน
แต่รวงรังสร้างจากความรักเท่านั้น

บ้านที่เป็นรวงรัง คือที่ ๆ เราอยู่
ที่ ๆ เราหายใจได้เต็มปอด
บ้านที่ต้อนรับญาติพี่น้องเพื่อนฝูงและมิตรผู้มาเยือน
ที่เก็บรักษาของที่เราสร้างขึ้น ของที่หามา ของที่เรารัก

เช่น ตัวหนังสือ


บนพื้นที่อื่นที่เราคิดว่าปลอดภัย
เราจะไม่ระวัง
เราจึงอาจโดนทำร้ายโดยไม่รู้ตัว

ไม่ควรมีใครโดนทำร้ายบนพื้นที่ ๆ เขาคิดว่าปลอดภัย


เก็บบ้านไว้เป็นที่ปลอดภัย
สำหรับตัวเราเอง คนในบ้าน
และคนดี ๆ ที่มาเยือน


คนเขียนคำ คำเขียนคน







*




16.1.56

วันที่เป็นใจ / On a day like today



วันนี้เป็นวันที่ใครคนหนึ่งพบกับความสำเร็จ
วันนี้อาจเป็นวันของคุณ ของฉัน ของเรา

แต่ไม่ว่าวันนี้จะเป็นของใคร
ทุกวันจะเป็นของบางคน
และ
ทุกคน จะมีบางวันเป็นของตนเอง


จัสมิน



*

10.1.56

ของขวัญ / Presents


"เราอาจให้โดยไม่รัก แต่เราไม่อาจรักโดยไม่ให้"
"We can give without loving but we cannot love without giving."
(Victor Hugo,  Les Miserables)

ของขวัญของเจดี

เทศกาลแห่งการให้เพิ่งผ้านพ้น
ของขวัญห่อกระดาษผูกโบว์สวย
และของขวัญที่ไม่ได้ห่อและไม่ได้ผูกโบว์
เราไม่อาจตีราคาว่าแบบไหนสูงแบบไหนต่ำกว่ากัน
ขึ้นอยู่กับคุณค่าทางจิตใจว่าสิ่งใดทำให้เราเป็นสุข


กำไลข้อมือของเก่าในครอบครัว ได้มาใส่ติดข้อมือไม่ยอมถอด

การเปิดห่อของขวัญให้ความตื่นเต้นระดับหนึ่ง
การได้เห็นหน้าบุคคลที่เรารักให้ความตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ได้
เราโอบกอด เราล้อเลียน พูดคุยอย่างไร้สาระหรือมีสาระ
บทสนทนาที่อาจจดจำได้ตลอดไป
ทุกสิ่งนี้ทำให้เราเป็นสุข
ของขวัญแห่งชีวิต


นาฬิกาเคยสวมติดข้อมือสุภาพสตรีที่รักผู้ล่วงลับ

สองปีที่ผ่านไป มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้ต้องหยุดคิดก่อนซื้อหาของขวัญให้ใคร
เพราะตัวเองไม่ได้คิดถึงราคาของที่ให้และได้รับ นอกจากคุณค่าทางจิตใจ
บางทีของที่เราให้เพราะอยากให้อาจทำให้คนรับรู้สึกว่าเป็นหนี้ที่ต้องชดใช้
ความรู้สึกนี้เป็นมุมกลับกับการให้
ไม่มีคนให้อย่างบริสุทธิ์ใจคนไหนปราถนาจะสร้างภาระหนักอึ้งให้กับคนรับ
จดจำไว้เตือนตัวเอง อย่าสร้างภาระให้ใครด้วยของขวัญ


นิตยสารบ้านของขวัญแจน

แต่ก็นั่นแหละ ใครจะเป็นใครไปได้นอกจากเป็นตัวเอง
หากเราต้องใคร่ครวญพินิจพิจารณาก่อนจะให้ของขวัญใคร
เสน่ห์และความสุขจากการให้ก็ไม่หลงเหลือ
ดังนั้น  ฉันจึงให้สิ่งที่ฉันอยากให้กับคนที่อยากให้ต่อไป


หนังสือน่าอ่านสิบเล่ม ทำบุญร่วมขัน ไว้เป็นของขวัญปีใหม่

ไม่ใช่ของขวัญหรอกที่เป็นปัญหา
แต่ขึ้นอยู่กับคนรับต่างหาก

ความคิดเรื่องหักลบกลบหนี้เป็นเรื่องน่าเศร้า
ในสังคมปัจจุบัน การตอบแทนเป็นเรื่องธรรมดา
แต่การตอบแทนควรให้คุณค่าทางจิตใจ
ดังนั้น ต้นหญ้าต้นหนึ่งหรือการ์ดทำเองจึงมีความหมายให้จดจำด้วยเรื่องเล่า
ของขวัญที่ผ่านกระบวนการทางความคิดและลงมือทำ

จากสุภาพสตรีผู้ป็นที่รักผู้ล่วงลับ ตัวละครเอกเรื่องสั้น "แสงแดดในห้องใต้หลังคา"


ของขวัญจากฉันอาจห่อด้วยกระดาษผูกโบว์สวย ๆ
ของขวัญของฉันอาจไม่ได้ห่อ
ฉันให้เพราะอยากให้
ความจริงเป็นเช่นนี้
"เราอาจให้โดยไม่รัก แต่เราไม่อาจรักโดยไม่ให้"


*


20.12.55

แสงแรก / First Light




เช้าบางเช้ามาถึงเร็วกว่าเช้าวันอื่น เช่นเช้าวันนี้ ฉันตื่นเร็วกว่าปกติ
เปิดประตูบ้านเดินผ่านสิ่งอื่น ๆ ตรงเข้าไปในสวน
สู่พื้นที่เจาะจงที่ไม่ค่อยได้รับการดูแล


ต้นมะม่วงน้ำดอกไม้และไม้เลื้อยการเวก ต้นโมก ต้นไผ่และต้นคูนทอดเงาตะคุ่ม
มีเงาเข้มข้นสีดำจนถึงเงาที่ลดระดับลงเป็นสีเทาเข้มรอบกาย
หนทางคล้ายบีบรัดเข้ามาและยาวขึ้น สองข้างเหมือนแคบลงและอันตราย
ฉันกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
เดินไปจนสุดทาง มีอะไรที่ต้องจัดการหลายอย่าง
มองทางไหนก็เห็นเรื่องหลัก ๆ ที่มีรายละเอียดหยุมหยิมรออยู่
ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งรู้สึกว่าความมืดหนาแน่นขึ้น
แสงแรกยังเดินทางมาไม่ถึง



ฉันหันกลับไปบนทางเดิม ต้นไม้ใหญ่น้อยทวีคูณด้วยเงาของมัน
ฉันอยากไปให้พ้นจากที่นี่ ที่ ๆ มีเงามืดเหนือศีรษะ ครอบคลุมลงบนทางเดินและพื้นดิน

เงยหน้ามองกิ่งก้านและใบดกหนาของต้นมะม่วงน้ำดอกไม้
แม่บอกไว้หลังออกลูกแล้วค่อยทอนกิ่งก้าน
แต่มะม่วงต้นนี้ออกลูกทั้งปีเพราะตอของมันเป็นพันธุ์ที่ออกลูกทั้งปี
ถึงเวลาให้ความโปร่งโล่งกับมะม่วง บ้าน และสวน
ร่มครึ้มเกินไปแล้ว
ทันใด แสงแวบกระทบตา ฉันเหลือบมองแสงแรกของวัน
แสงแรกที่ไม่เห็นมานาน





รีบวิ่งเข้าไปในบ้านคว้ากล้องถ่ายรูป แล้ววิ่งออกมาถ่ายรูปเอาไว้
ตอนถ่ายเห็แต่แสงจ้า
อดยิ้มไม่ได้ ดูนั่น ที่มุมขวาล่างของภาพบ้านกับมุมสวนรก ๆ
แสงแรกที่ส่องผ่านใบมะม่วงเป็นรูปทรงของหัวใจ

บางคน
อาจส่งมาจากข้างบน
จากฟากโน้น
จากที่ไกล ๆ

บางความจริงเหมือนเงาดำ ๆ ในสวน
บางความจริงเหมือนแสงแรกของเช้าวันนี้


เงยมองฟ้า เครื่องบินบินผ่านพอดี พาดสีขาวไว้บนฟ้า


จัสมิน

17/12/2012
*

13.12.55

ก่อนฟ้าเปลี่ยนสี / November Sky

November Sky in the evening, end of rainy season

พฤศจิกาทิ้งท้ายปลายฝนด้วยฟ้าสีหม่นตลอดวันลอยกระทง
เมฆไม่เป็นก้อนแต่แผ่เป็นผืนเหมือนม่านหนาพรางท้องฟ้าทั้งหมดไว้
วันนั้นฉันไม่เห็นพระอาทิตย์ ไม่เห็นพระจันทร์
เหมือนวันคืนได้เข้าใกล้กันมากกว่าวันคืนอื่นใด
อย่างช้า ๆ อย่างอ่อนโยนจนกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน

ฟ้าหม่นมัวค่อยหม่นมืดลงเรื่อย ๆ เหมือนเพิ่มชั้นผ้าม่านทีละชั้น ๆ
กระนั้นฟ้าก็ยังสวย
อ่อนหวานนุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่ห่อหุ้มความสงัดเงียบที่รู้สึกไว้หลวม ๆ
ฉันไม่เคยมองความงามเหล่านี้เพื่อตั้งคำถามกับตนเอง
ไม่ได้มองหาบทเรียนใดจากสิ่งที่เห็น
เพียงดื่มด่ำความงามในชั่วขณะที่เกิดขึ้นต่อหน้า
บทเรียนใดจะตามมาภายหน้าอย่างไรหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของกระบวนการ

ฉันชอบอยู่กับธรรมชาติ แต่เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันก็น้อยเต็มที
ฉันชอบอยู่กับผู้คน
แต่เรามักต้องอยู่กับผู้คนมากจนบางครั้งเราเหลียวมองไปอีกทิศทางหนึ่ง
ทิศทางที่เราจะได้อยู่กับตัวเอง

เราไม่ได้อยู่กับตัวเองเพราะต้องการใช้ความคิดเสมอไป
บ่อยครั้งเพียงเพื่อเราจะได้หยุดคิด
นั่งสบาย ๆ นั่งเฉยๆ ทอดยอดไปเหมือนเถาไม้เลื้อย
ความคิดใดจะผ่านมาผ่านไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง


ถึงวันนี้ ธันวามาถึงแล้ว และฟ้าก็เปลี่ยนสี


Evening Sky in December Bangkok, Thailand


 อากาศเริ่มแห้ง มีความกรุบกรอบเปลี่ยนแปลกที่คุ้นเคยบอกเราว่า ฤดูหนาวแบบไทย ๆ กำลังจะมาถึง
ธันวานำท้องฟ้าใส ๆ เมฆเบา ๆ บาง ๆ มาฝาก จนทำให้ต้องถ่ายรูปเก็บไว้
ฉันเขียนบทกวี "เก็บท้องฟ้าเอาไว้ ไมใช่เดือนดาว"
... ความอ่อนโยนทำให้ฉันเปราะบาง

คริสต์มาสต์นี้ที่บ้านจะพร้อมหน้ากันมากกว่าคริสต์มาสต์หลายปีที่ผ่านไป
ฉันคิดถึงคนที่จากไป และคนที่ไม่อยู่ 

เวลาที่ใช้กับผู้เป็นที่รักในชีวิต จริงเท่ากับเวลาที่เราใช้คิดถึงพวกเขา
ทั้งสองช่วงเวลาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคน

เราเก็บเวลาไว้ไม่ได้ เก็บได้แต่ช่วงเวลา
เราเก็บชีวิตคนที่เรารักไว้ไม่ได้ เก็บได้แต่ความรัก
  สุดท้ายแล้ว
เราก็ได้แต่เก็บท้องฟ้าเอาไว้ ไม่ใช่เดือนดาว
เราทำได้แค่นี้จริง ๆ



*

ฟ้าใสแสนสวยต้นเดือนธันวา "เก็บท้องฟ้าเอาไว้ ไม่ใช่เดือนดาว"


*

Evening Sky in November, Bangkok Thailand

11.9.55

เปลี่ยนไม่ได้ Unchanged



"นิ้วโป้ง ยังไงก็เป็นนิ้วโป้งวันยังค่ำ" เพื่อนรักเขียนคำจัสไว้ในห้องพูดคุย

ที่จริงคำกล่าวนี้งอกเงยจากคำของศิลปินโลก มาร์ค ชากัล
"นิ้วอื่น ๆ ต้องเรียนรู้ นิ้วโป้งรู้ตั้งแต่เกิด"

คนเก่งยังไงก็เป็นคนเก่ง เช่นเดียวกับนิ้วโป้ง
ไม่ว่าใครจะพูดยังไง นิ้วโป้งก็เป็นนิ้วโป้ง
ถึงคน ๆ นั้นจะหยุดใช้ หรือไม่ใช้ความเก่งที่มี
เขาก็เป็นได้เพียงคนเก่งที่หยุดใช้หรือไม่ใช้มัน
เป็นได้เพียงนิ้วโป้งที่ไม่ได้ใช้งาน

คนที่รู้ว่าไม่ใช่นิ้วโป้งก็เรียนรู้ฝึกฝน
ไม่ใช่เพื่อเป็นนิ้วโป้ง
แต่เป็นนิ้วเดิม ที่แข็งแรงขึ้น คล่องแคล่วเชี่ยวชาญขึ้น
รู้เท่าที่นิ้วโป้งรู้

ไม่มีสิ่งใด หรือใคร
สามารถเปลี่ยนนิ้วโป้งหรือนิ้วไหน
ให้กลายเป็นนิ้วอื่นไปได้


*


10.8.55

กระบวนการ Process




มองรอบตัว มองกลับมา มองเข้าไป
ไม่พบสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่ผ่าน"กระบวนการ"

สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตล้วนผ่านกระบวนการ
จักรวาล ธรรมชาติ คน สัตว์ สิ่งของ ศิลปะ
เมื่อมองอย่างวินิจวิเคราะห์โดยปราศจากอคติ
กระบวนการน่าตื่นใจ ทำให้ประหลาดใจ น่าพิศวงกว่าการดำเนินการ
อัศจรรย์ใจต่อสิ่งที่กระบวนการ ทั้งดีไม่ดี ทำให้เรา

กระบวนการเกิดขึ้นก่อนหน้าการก่อเกิด
แล้วสิ้นสุดลงตรงไหน
เมื่อชีวิตสิ้นสุด อย่างนั้นหรือ
หรือกระบวนการไม่ได้สิ้นสุดลงที่ความตาย
เพียงแต่การรับรู้ของเราสิ้นสุดลง

กระบวนการเหมือนการสลักเสลา
มีส่วนที่เก็บไว้ กับส่วนที่เอาออกไป
ทั้งตื้นลึกหนาบางแตกต่างกัน
ความซับซ้อนที่ดูเหมือนง่าย
เป็นฝีมือของมืออาชีพที่สามารถทำให้สิ่งซับซ้อนดูไม่ซับซ้อน
กระบวนการคือสุดยอดมืออาชีพ
เราจะไม่ตกอยู่ในอันตราย ตราบเท่าที่เรารู้ว่าชีวิตไม่ง่ายดาย

นิชเช่กล่าวว่า
"ใครก็ตามที่ต่อสู้กับเหล่าปีศาจ ต้องแน่ใจว่าจะไม่กลายเป็นปีศาจไปในกระบวนการ
และถ้าใครมองอเวจีนานพอ อเวจีก็จะมองกลับมา"

"Whoever fights monsters should see to it that in the process he does not become a monster.
And if you gaze long enough into the abyss, the abyss will gaze back at you." Friedrich Nietzsche

เราต่างต้องพบเจอกับช่วงเวลาย่ำแย่มากน้อยกันทุกคน
เราดำดิ่งลงไป แค่อย่านานเกินไป

ถึงยังไงเราก็ยังพอมีทางเลือก
ทางเลือกของเรามีผลต่อกระบวนการ
กระบวนการสลักเสลาที่เราไม่อาจปฏิเสธ


*






3.3.54

The Rising Sun


I have at least one great news to tell.
Today the sun rises from the east before six!
I often see this happens with my own eyes!
But The Sun never sees me.
It sees nobody.
The Sun never cares if there are people waiting to see it rises or sets,
never cares if there are more or less cloud,
that it should increase or decrease the light,
only shines.
As if it tries to send us most important message.
Do as I do,
Do not worry about anything,,
just be yourself,
do what you have to do
and
shine.

*****

วันนี้ฉันมีข่าวดีมาบอก !
ก่อนหกโมงเช้า พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมา ณ ขอบฟ้าตะวันออก
ฉันเห็นกับตา !
แต่พระอาทิตย์ไม่เห็นฉันหรอก
พระอาทิตย์ไม่เห็นใครเลย
ไม่เคยสนใจว่าจะมีใครรอเฝ้ามองยามขึ้นหรือตก
ไม่เคยสนใจว่าวันนี้เมฆน้อยหรือเมฆมาก
ควรส่งแสงมากขึ้นหรือน้อยลง
หากทำหน้าที่ให้ความสว่างเรื่อยไป
ทั้งยังส่งสารสำคัญมาถึงมนุษย์โลก
“ทำตามฉันสิ” “
ไม่ต้องใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น
เพียงเป็นตัวของตัวเอง และเปล่งประกาย !”


*****



Things to do?




I find a piece of paper unexpectedly. I know I shouldn't read it.
But my curiosity wins over me.
It's a list of things to do.
I compare it with mine, of what I have to do this weekend.
This list is not as complicated.
I want to know if he or she who wrote this list completes all these.

Suddenly a question pops up.
Shall we or shall we not neglect, let go, cross out some of the things in our lists sometimes.

Often, things to do are less than what we think there are.
Especially when it's weekend.
May be the one who wrote it just tossed it away.
May be he or she is taking a walk in this beautiful park and enjoying it as well.
***



สิ่งที่ต้องทำ ?

จู่ ๆ ฉันเจอกระดาษแผ่นหนึ่งบนพื้น ฉันไม่ควรอ่านมันหรอก แต่ก็นั่นละ ตัวหนังสือกับความอยากรู้อยากเห็น มันเป็นรายการ “สิ่งที่ต้องทำ” ของใครบางคน
ฉันเปรียบเทียบกับสิ่งที่ฉัน ต้องทำระหว่างวันหยุดนี้ รายการบนกระดาษไม่ซับซ้อนเท่าของฉัน ไม่รู้ว่าคนเขียนทำสิ่งเหล่านี้เสร็จสิ้นหรือยัง
เกิดคำถาม
คนเราจะปล่อยวาง ละไว้ หรือขีดค่าบางสิ่งในรายการสิ่งที่ต้องทำได้ไหมไม่เลว บ่อยครั้ง สิ่งต้องทำมีน้อยกว่าที่เราคาดคิด
โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นวันหยุด

คนเขียนอาจคิดว่าป่วยการ แล้วโยนมันทิ้ง !
และคงกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสวยงามนี้
เช่นเดียวกับฉัน.


*****

Time เวลา



 เวลา
นามธรรมที่มองไม่เห็น
เช่นเดียวกับมิตรภาพ ความรัก ความสุข
และสิ่งตรงกันข้าม
กระนั้น...เรารู้ว่า...มีอยู่


เวลาไม่เคยวางบางสิ่งไว้ให้เรา
แต่เราสามารถวางบางอย่างไว้ในเวลา
เวลาได้แต่เดินหน้า ไม่สนใจใคร่รู้
ผ่านแล้ว ผ่านเลย
ไม่เหมือนเรา


หนังสือเรียงรายอยู่ในจักรวาล
คณานับผู้เขียน จากไปเนิ่นนาน
แต่หนังสือ ยังคงดำรงอยู่ในกาล


เราไม่อาจหยิบฉวยจากเวลา คนหนึ่งบอก
อีกคนนั่งลง หยิบกระดาษปากกา
หยิบฉวยจากตนเอง เขียนลงบนกระดาษ
วางตัวหนังสือ
ไว้ในเวลา


*****





Time is an abstract.
Like friendship, love, happiness including  the opposites.
Still we know the existence of them all.

Time never lays down anything for us
But can we put something into time.
Time moves on without curiosity
but not us.

Books lines in the universe of books
Immense numbers of authors were gone
Some of their works stay.

Can we snatch something from time? One asks.
Another sits down with pen in hand,
Takes away from self.
Writes words on the blank papers
places his words into time.


***** 

24.2.54

Take care of your life so that your life will take care of you


photo by Miguel Angel de Arriba

อลิซเดินทางไปในแดนมหัศจรรย์ ภาพยนต์เรื่อง ‘Wizard of Oz” พาเราไปรู้จักกับเพลง ‘Somewhere over the Rainbow’ บางแห่งเหนือสายรุ้ง อาจทำให้เราบางคนจินตนาการเห็นยูโทเปียที่เราแสวงหา เราปรารถนาจะให้ภาพงดงามเกิดขึ้นและมีเราอยู่ในภาพนั้น

สายรุ้งที่ใฝ่ฝันจะอยู่ที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่โลก โลกเป็นที่เดียวที่เราสามารถสร้างฝันของเราให้เป็นจริง ผืนโลกคือที่เดียวที่เราย่ำเดินสู่จุดหมาย เราเดินทางไปบนทางที่เลือกแล้วพร้อม ความคิดและความรู้สึก บางคนมุ่งไปอย่างมุ่งมั่นไม่ว่อกแว่ก บางคนเปลี่ยนแผน บางคนสะเปะสะปะ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เป็นไรตราบที่รู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ต้องการ

ชีวิต นำพาปัญหามาให้ทุกคน ไม่ละเว้น ไม่ยกเว้น ไม่ไว้หน้า เราเพียงไม่ให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป ชีวิตมอบสิ่งดีๆให้เราด้วย เราต้องไม่ลืม รู้คุณและขอบคุณ...ชีวิต

บางสถานการณ์เมื่อเกิดอารมณ์ร่วมจนเกินเหตุ เกินการควบคุม เมื่อเป็นดังนั้น ถอยออกมาเพื่อเรียกความแข็งแกร่ง ความเชื่อ และความสบายใจของเราคืนกลับมา

ดูแลชีวิต แล้วชีวิตจะดูแลเรา

Gracias a la Vida ขอบคุณชีวิต.

จัสมิน
16/2/11

photo by China Lesoca














หน้าเว็บ