1.10.56

แผ่นเสียงสะสมของเจดี / JD's records collection



เคยบ้างมั้ยคะที่ตั้งใจทำอย่างหนึ่ง พอเริ่มลงมือก็ไปพบเจอสิ่งน่าสนใจที่ใกล้ตัวกว่า
ตั้งใจหารูปห้องทำงานนักเขียนโลก ก็พบว่าเรื่องราวในชีวิตของพวกเขา
ถ้อยคำทั้งที่เขียนในหนังสือและในบทสัมภาษณ์นั้นน่าสนใจกว่า
ได้บทความเขียนโดยมุราคามิ ลงในนิวยอร์ค ไทม์ส อ่านประโยคแรกถึงกับอึ้งเลย
ก็นักเขียนเขียนถึงตัวเองนี่คะ
แล้วจะแปลมาลง น่าสนใจมาก เพลงที่เขาพูดถึงก็เป็นเพลงในบ้าน


หาภาพห้องทำงานนักเขียนระดับโลกกลับไปเจอภาพมุราคามิที่แจ๊สบาร์"พีเตอร์ แคท"กับแผ่นเสียงสะสมและห้องเก็บแผ่นเสียงของเขา

Haruki Murakami at his jazz bar, Peter Cat, in Sendagaya, Tokyo, 1978.

ห้องเก็บแผ่นเสียงของมุราคามิไม่รู้ไปสิ้นสุดลงตรงไหน

Murakami's records collection room


ทำให้เห็นภาพจำลองห้องเก็บแผ่นเสียงของเจดีในอนาคต
แผ่นเสียงของเจดีส่วนใหญ่เดินทางมาจากอเมริกาและอังกฤษ
เจดีเหมือนได้ของขวัญทุกครั้งที่แผ่นเสียงที่สั่งไปมาถึง
ก่อนมาถึงก็เฝ้ารอ
เลยได้ตื่นเต้นไปด้วยเวลาเจดีเอามาให้ดูพร้อมเรื่องเล่า แต่ละปกเจ๋งและเก๋าจริง ๆ
จนคิดจะถ่ายภาพปกแผ่นเสียง(ทุกปก)มาลงไว้ในไฟล์
เจดีบอกว่าแสกนเอาจะดีกว่า ไปดูแสกนเนอร์แล้ว กว้างไม่พอ

อย่างนี้ถ่ายรูปดีกว่า




















ปกของแผ่นเสียงเก่า ๆ ก็น่าสนใจพอกับปกหนังสือ
เจดีสะสมแผ่นเสียงเก่าที่อยากได้
แต่ที่อยากได้ที่สุดจะเป็นยุค 40 ที่ราคาแพงมาก แผ่นหนึ่งก็หลายหมื่นบาท
จึงต้องห้ามใจตัวเองไว้ก่อน แต่ความอยากก็หยุดได้ยาก
^^
เห็นใจ
ตอนนี้มีอยู่ไม่น้อย ตั้งใจว่าจะทยอยถ่ายรูปมาเก็บไว้ให้
แผ่นเสียงแผ่นหนึ่งหายไป (อาจหาไม่เจอเอง)
เจดีบอกว่า แผ่นนั้นราคาขายอยู่ที่สองหมื่น
โอย
ดังนั้น คงต้องช่วยถ่ายรูปเก็บไว้ให้จะได้ไม่หลงลืม
แต่ก่อนอื่นเจดีคงจะต้องเก็บเงินทำตู้เก็บแผ่นเสียงก่อน
ไปหาซื้อตู้หลายครั้งแล้ว ความกว้างไม่พอ
ค่าตู้ที่จะสั่งทำก็คงแพงไม่น้อย

คนนึงมีเงินก็ซื้อต้นไม้ ต้นไม้มีชีวิต
อีกคนนึงซื้อแผ่นเสียง
เพลงก็มีชีวิตเหมือนกัน
ต้นไม้ต้นหนึ่งมีชีวิตยืนยาว (ยกเว้นต้นไม้ลัมไม่ลุก กับต้นไม้ล้มลุก)
บางเพลงก็มีชีวิตยืนยาวได้เหมือนกัน
อาจยืนยาวยิ่งกว่าต้นไม้บางต้นเสียอีก 


*


3.9.56

นกเขาหลวง Spotted Dove, Free Bird


"ไม่ทันกลืน" นกเขาหลวงกับเมล้ดข้าวฟ่างที่จงอยปาก

นกเขาหลวงหุ่นท้วมเดินต้วมเตี้ยม
สวมเสื้อคลุมอ่องเอี่ยมปกดำขาว
เมล็ดพืชโปรยหล่นลงกรูกราว
ทีละเม็ดแต่ละคราวเจ้าเก็บกิน





นกเขาหลวงหรือเขาใหญ่มีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Spotted Dove เพราะลายที่คอเป็นจุดดำขาว
บ้างเรียกว่า Necklace Dove เพราะเหมือนใส่สร้อยคอ
บ้างเรียกว่า Pearl-necked Dove คล้ายว่าใส่สร้อยมุก
และบ้างเรียกว่า Turtle Dove เพราะค่อนข้างอุ้ยอ้าย
อ่านมาว่าคนเคยเลี้ยงกันเยอะ ตอนนี้หันไปเห่อนกปรอดหัวจุกกัน


*
ดีใจมากที่ได้ภาพ "ไม่ทันกลืน"นี้ 
ถึงไม่ใช่ภาพมังกรคาบแก้ว แต่ก็เป็นนกคาบเมล็ดข้าวฟ่างนะคะ








21.8.56

ชบาซ้อนสีแดง / Red Rosette Hibiscus


ชบาซ้อนสีแดง / Chinese Rose, Hibiscus Rosa Sinensis

ดอกชบาซ้อนสีแดงเตือนให้นึกถึงคาร์เมน ผู้หญิงยิบซีแสนสวยที่ถูกฆ่าตายขณะยังเป็นสาวสะพรั่ง
ดอกชบามีอายุสั้นแค่วันเดียว จะหุบกลีบในยามเย็นก่อนอาทิตย์อัสดง

เมื่อมีงานเลี้ยงที่บ้าน เด็ดชบาบานหลากสีจัดวางแทรกผลไม้ในถาด หรือรายรอบโถพันช์
ให้อยู่ใต้แสงไฟจากดวงโคมกลางโต๊ะ ดอกชบาก็เบ่งบานสดสวยอยู่อย่างนั้น
งานเลี้ยงเลิกรา ดวงไฟถูกปิด
รุ่งเช้า กลีบดอกชบาหุบม้วนเป็นเกลียว
เวลาของเธอสิ้นสุด ยื้อยุดได้เพียงชั่วคืน

แม่รักดอกกุหลาบ แต่กุหลาบปลูกแล้วดูแลยาก ออกดอกมากตอนหน้าหนาว
แทนกุหลาบ แม่ปลูกดอกชบาที่ออกดอกทุกวี่วัน ดอกใหญ่สีสวยสด
ความงามของดอกชบาซ้อนทำให้ได้นามว่ากุหลาบจีน (Chinese Rose)

หลายปีก่อนเคยเขียนถึงดอกชบาในบทกวีกลอนเปล่า เอามาลงเก็บไว้ให้ได้ย้อนมาอ่าน
ชบาซ้อนดอกนั้นหุบกลีบไปเนิ่นนาน แต่ดอกชบายังคงคลี่บานให้ชื่นชม


"ซินเดอเรลล่า เวลาของเธอหมดแล้ว"
(15/2/2008)

ชบาซ้อนสีแดง / Red Rosette Hibiscus (Chinese Rose)

 ฉันต้องไปแล้วคนเก่ง
เพลงลารนเร่งอยู่ในวินาทียามเย็น
ใกล้สิ้นแล้วความเป็นของสาวสคราญ

ตะวันลอยต่ำ ดิ่งดำสู่ก้นบึ้งแห่งกาล
เข็มนาฬิกายังคงเดินหน้าต่อไป
สงสารดอกใจ ช้าหน่อยได้ไหม... เวลา

ก่อนราตรีมีเวทมนต์ เขาจุดดวงไฟเจิดจ้า
นั่งตรงนี้เถิดหนา ยื้อยุดฉุดคร่าชีวา
ตวงตักความรักเก็บไว้

รุ่งรางคอตกซบใบ
 ทุกห้วงดวงใจ
สิ้นไร้แม้ความทรงจำ 


 
 
*


4.8.56

วันอาทิตย์เป็นมิตรกับครัว สตูว์ไก่ / Chicken Stew

วันอาทิตย์มักเป็นวันที่สงบเงียบ เป็นวันที่ได้เข้าครัวทำอะไรง่าย ๆ ทาน
เวลาที่เหลือส่วนใหญ่ก็ขลุกอยู่ในสวน

สองอาทิตย์ที่ผ่านไปทำสตูว์ไก่
คลุกไก่กับเกลือและพริกไทยดำที่บดเองสด ๆ
แล้วทอดให้เหลืองกรอบ ข้างในไม่สุกไม่เป็นไรเพราะจะเคี่ยวต่อ


ใส่หอมใหญ่ลงไป ตักไก่ทอดมาวางไว้ข้างบน
ธรรมดาแม่จะทอดทีละอย่าง คือตักไก่ขึ้นแล้วทอดหอมหัวใหญ่
 พวกลัดขั้นตอนก็ทำอย่างนี้


ทีนี้ก็ใส่มันฝรั่งลงไป ตักไก่กับหอมหัวใหญ่มาไว้ข้างบน 
^^ แม่ส่ายหน้าอยู่บนฟ้า
แล้วบอกว่า ทำไมไม่ทอดทีละอย่างล่ะลูก


รอจนกลิ่นหอมโชยออกมาก็ใส่มะเขือเทศ
ก่อนหน้านี้ไม่ผัด 
แต่พอใส่ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซ้อสแม็กกี้(นิดหน่อย) เกลือ พริกไทยดำป่น
ก็ผัดคลุกเคล้าแบบไม่ซีเรียส
ปล่อยไว้ให้เกรียม ๆ ที่ข้างนอก ใช้ไฟสูงตลอดเลย
เกรียมแล้วมันจะหอม


พอหอมมาก ๆ แล้วก็เติมน้ำจากเครื่องกรองให้ท่วมแล้วปิดฝา
รอให้เดือด
พอเดือดแล้วทีนี้ก็เคี่ยวไฟรุม ๆ ไปเรื่อย ๆ
(ตอนนี้มีอะไรทำก็ไปทำได้)
เคี่ยวไป ๆ ให้น้ำกระดูกออก ปิดฝาแง้มไว้นิดนึงให้ไอระเหยออกมา
น้ำแกงจะงวดลง
ถ้าชอบค่น ๆ ก็เคี่ยวนานหน่อย

โอ กลิ่นหอมมาถึงแล้ว พร้อมชิมรสเค็ม ๆ มัน ๆ เปรี้ยว ๆ
 สตูว์ได้ที่รอรับประทาน


นี่คะสตูว์ที่เคี่ยวได้ที่ ทานกับข้าวร้อน ๆ  ทานเปล่า ๆ ก็อร่อย
เช้ารุ่งขึ้นอุ่นให้ร้อนทานกับขนมปังปิ้งอร่อยมาก
หอมใหญ่ละลายเช่นเดียวกับมะเขือเทศ มันฝรั่งก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
น้ำสตูว์ก็เข้มข้นขึ้น น่าจิ้มขนมปัง


*





14.7.56

นกปรอดบ้านขาว ตอน 3 / Bul Bul Birds @ Our Home part 3



ครั้งที่แล้วเล่าถึงประสบการณ์บินครั้งแรกก็เจอฝนของลูกนกปรอดเกิดที่บ้าน
ที่จบลงด้วยดี ลูกนกได้กลับรัง
คนเล่าเป็นสุข ทิ้งท้ายไว้ว่ายังมีที่สุขกว่านี้
ที่สุขกว่านี้ก็คือ วันรุ่งขึ้นแม่นกพาลูกนกมาเยี่ยมค่ะ
มาเกาะกิ่งต้นเข็มห่างจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่แค่เมตรนึง มองเอามองเอา
ต่างก็มองกัน คิดถึงจะตาย

นี่เป็นวันรุ่งขึ้นหลังจากเข้าไปแทรกแซงพาลูกนกเปียกปอนกลับรัง
วันที่สองก็หัดบินต่อ ยังงอมอยู่เลย ขนแข็งตั้ง ๆ บนหัวบอกว่าเป็นผู้ชาย
แม่เป็นคนพามา ที่ถูกคือ แม่เป็นนกพามา



มองกันจริงนะนี่ หางใครโผล่ออกมา 

ช่างจิ้มลิ้ม


ยังคงมอง 
เหมือนบอกว่า "อยากมองก็มอง อยากถ่ายรูปก็ตามสบาย"



ยกหน้าโพสต์ท่าให้เลย น่ารักจัง




ใบหน้าท่าทีของนกน้อยเป็นแรงบันดาลใจทำให้อยากวาดการ์ตูน
ขนบนหัวแสกกลางด้วย ^^



กลับมาเยี่ยมมามองกันจริง ๆ นะคะ 
บทสนทนาไร้เสียงที่ตรึงใจ


ขนอุยอ่อน ๆ ที่หน้าอก


หางกับตัว ถ่ายจากด้านข้างยังไม่บินหนีเลย
วางใจ...



จำลูกตาได้ติดตาติดใจจากครั้งติดฝน



สวยเหลือเกิน นกอิสระ(ของฉัน)



ผลจากคำพูดที่ว่า "เราเลี้ยงนกได้โดยไม่ต้องขังกรง"



คำว่า "ชมนกชมไม้" เข้ามาให้เห็นตรงหน้า
ส่งความอ่อนโยนละเมียดละไมมาถึงหัวใจคน
คนเป็นสุขก็เชื่อว่า ความรัก ผูกพัน และห่วงใยก็ส่งถึงหัวใจนกเหมือนกัน
ความรู้สึกดี ๆ ทั้งหมดนี้ละเอียดอ่อน ลึกซึ้งและกินใจจริง ๆ

บางครั้ง เราคอยนก
บางครั้งนกคอยคน
เราไปเยี่ยมพวกเค้าไม่ได้
นกต้องมาเยี่ยมเราแต่ฝ่ายเดียว

เชื่อว่า วันหนึ่งมันจะพาคู่รักมาด้วย
มาสร้างรังออกไข่
นกน้อยรุ่นใหม่จะเกิดที่นี่
ในสวนบ้านขาวที่ใบไม้มีรูพรุน
มีหนอน มีแมลง มีผีเสื้อ มีผึ้ง
มีนก

แล้วเจอกันมัมมี่ แด้ดดี้ และเบบี้บุลบุล




*







23.6.56

นกปรอดบ้านขาว ตอน 2 / Bul Bul Birds @ Our Home part 2


วันอาทิตย์นั้นฝนตกหนักทั้งวัน จนเย็นฝนถึงหยุดตก ฉันออกมานั่งใต้กระโจมในสวนเห็นนกปรอดพ่อแม่บินร่อนไปมาวุ่นวายผิดปกติแต่ไม่ได้ยินเสียงลูกนกร้องขออาหาร ธรรมดาแล้วมันจะร้องเสียงดัง
ฉันตื่นตัวและเริ่มสังเกตการณ์

พ่อนกแม่นกร่อนลงไปที่กอต้น "หัวใจสีม่วง" สูงจากพื้นดินไม่ถึงครึ่งเมตร พอมันไปแล้ว ฉันก็ย่องไปดู ภาพที่เห็นทำเอาใจหายวาบ


Baby Bul Bul soaking after heavy rain 1

 ลูกนกปรอดที่น่าสงสาร เพิ่งหัดบินวันแรกก็เจอพายุ ตัวเปียก น้ำหยดติ๋ง ๆ
จะทำยังไงดี !
หนังสารคดีชีวิตสัตว์แนะนำไม่ให้แทรกแซง !
เฝ้ามองพ่อนกแม่นกกระวนกระวาย
จะทำยังไงดี !


Baby Bul Bul soaking after heavy rain 2

คิดไป อยู่ไม่ติดไป ลูกนกตัวสั่น มันกำลังทรมาน หนาวจนถึงกระดูก
พ่อนกแม่นกวนเวียนไปมาไม่ต่างจากฉัน มันทำอะไรไม่ได้ ลูกนกไม่ยอมบิน


Baby Bul Bul soaking after heavy rain 3


ลูกนกดูแย่ลงทุกวินาที ทั้งเปียก ทั้งหนาว
ลูกนกเอาแต่หลับตามันคงอยากกลับไปที่รัง รังแห้ง ๆ ที่โอบกั้นมันเอาไว้
ไม่ ฉันยังไม่กล้าพามันกลับรัง กลิ่นมือคนอาจทำให้พ่อนกแม่นกปฏิเสธ ตัดขาดมัน


Baby Bul Bul soaking after heavy rain 4

 ทนไม่ไหวแล้วฉันวิ่งไปเอาบันได ยกมาวางไว้ใกล้รังนก ฉันซ้อมปีนโดยไม่ใช้มือเกาะ กะจังหวะให้ดี สองก้าวยื่นมือไปต้องถึงรัง
คิดมากเพราะกลัวลูกนกถูกพ่อแม่ตัดขาด ฉันไปตัดใบพุทธรักษา ตัดก้านออก เตรียมไว้จับตัวมัน จะได้ไม่มีกลิ่นมือคน
ฉันรู้ว่าไม่ควรแทรกแซง


Baby Bul Bul soaking after heavy rain 5

ลูกตามันเหมือนบอกว่า ช่วยฉันที


Baby Bul Bul soaking after heavy rain 6

ดูลูกตามันซีคะ  



Baby Bul Bul soaking after heavy rain 7

สุดทนอีกต่อไป ตัดสินใจในทันที
คิดช้า ตัดสินใจเร็วจนลืมใบพุทธรักษาที่เตรียมไว้
ดิ่งไปรวบตัวมัน แกะเท้าสีฟ้าซีดที่เกาะแน่น กุมมันไว้หลวม ๆ ในอุ้งมือ
ตัวมันเล็กมาก เย็นชืด เปียกและหนืด ๆ
ปีนขึ้นบันได ยื่นมือไปวางลูกนกลงในรัง แล้วลงมาถอนหายใจ
อย่างน้อยมันก็น่าจะอุ่นใจที่ได้กลับรังที่คุ้นเคย

ทีนี้ก็กลับมานั่งกังวล กลัวจะทำผิด พ่อนกแม่นกบินร่อนไปหาลูกในกอหัวใจสีม่วง แต่ไม่มีซะแล้ว
ทีนี้มันทุรนทุรายเลยทีเดียว มันบินไปบินมามองหาลูก
คนช่วยลูกก็ฝ่อลงทุกขณะ
บันทึกภาพไว้  พ่อนกบินไปบินมา แม่นกเกาะกิ่งราชาวดี ท่าทีหน้าตาเป็นกังวล


Mommy Bul Bul Bird

ลูกนกส่งเสียงร้อง แม่นกบินไปที่รัง ไปส่งเสียงถามลูกหรือดุว่าหรือบอกอะไรลูกก็ไม่แน่ใจ
เวลานั้นอยากพูดภาษานกได้ที่สุด
ลูกนกร้องโวยวายยาว ๆ แม่นกก็โวยวายยาว ๆ เหมือนกัน
เราผู้ไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกดีหรือไม่ดี ทำผิดหรือทำถูกได้แต่เฝ้ามอง
เมื่อไหร่แม่นกถึงจะลงไปกกลูกให้อุ่นซะที หรือว่ามันไม่เอาลูกแล้วเพราะเราเอง


Daddy Bul Bul Bird
 
มืดค่ำ ฉันยืนแง้มม่านสังเกตการณ์ แม่นกยังไม่ลงไปนอนในรัง แต่แม่ลูกเลิกคุยกันแล้ว
ตั้งแต่เย็นย่ำจนสามทุ่ม คนช่วยลูกนกแทบร้องไห้ ตัดสินใจว่า ถ้าแม่นกไม่เอา เลี้ยงเองก็ได้ !
สามทุ่มกว่า คนเกือบร้องไห้ยิ้มแฉ่ง
แม่นกเข้าไปกกลูกแล้ว มันคงรอให้ขนแห้งก่อน


Baby Bul Bul back to its dry and familiar nest
ภาพนี้ไม่ใช้แฟลช กลัวลูกนกตกใจ  ภาพที่ได้มาไม่ค่อยชัด
แต่ภาพในความทรงจำชัดแจ๋วเลย ลูกนกขนแห้งแล้ว และมีแม่เป็นผ้าห่ม
คืนนั้นฉันนอนหลับอย่างเป็นสุขหลังใจหายใจคว่ำมาตั้งแต่เย็น
  เรื่องนี้จบลงด้วยดี
ผู้ร่วมประสบการณ์ "หัดบินวันแรกก็เจอพายุ" ของลูกนกปรอดมีความสุข ลูกนกอบอุ่นอยู่ในรังของมัน
สุขแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ยังมีที่สุขกว่านี้อีกค่ะ

สุขยังไง ไปอ่านต่อที่ตอน 3 เลยค่ะ
http://gantongtonglom.blogspot.com/2013/07/9vo-3-bul-bul-birds-our-home-part-3.html


*





24.5.56

นกปรอดบ้านขาว ตอน 1 / Bulbul Birds @ Our Home part 1


นกปรอดเกิดในบ้าน


Mommy and baby Bul Bul at our home




 Bul Bul couple chose our home to build its nest

นกปรอดสองตัวนี้เลือกมาทำรังที่ใต้ระเบียงทางเข้าออกบ้าน
มันสร้างรังบนกิ่งราชาวดีกับกิ่งกุหลาบเลื้อย


Bul Bul nest above our entrance under verandah

รังของมันโปร่ง ๆ เบา ๆ แต่ก็แข็งแรงพอจะรองรับไข่และแม่นก



 Bul Bul nest

 เราทุกคนตื่นเต้นกันมากที่มันเลือกที่สร้างรัง กันแดดกันฝน
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือมันวางใจเรา เหมือนเชื่อว่าเราจะดูแลให้มันปลอดภัย
คนเข้าคนออกผ่านไปผ่านมา พ่อนกก็มารับแม่นกออกไปหาอาหารทุกเช้า
ทิ้งไข่ให้เราเฝ้า
แค่เอาบันไดปีนขึ้นไปดูก็จะรู้ว่ามีไข่กี่ฟอง
แต่เราไม่เคยทำ ไม่อยากแทรกแซงครอบครัวนกนี้มากเกินไป
ก็มันไว้ใจเรานี่นา


Mother brooding its egg

แม่นกกกไข่ตัวยื่นออกมาตั้งเยอะ

ตอนกลางคืนพ่อนกจะหายไป เดาว่าคงไปเกาะกิ่งไม้นอน
แต่เช้าตรู่ก็จะมาเรียกแม่นกออกไปกินอาหารด้วยกัน

และแล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็ปรากฏ
ลูกนกออกจากไข่แล้วค่ะ 

Mom and baby Bul Bul

เจ้าตัวน้อยรอให้แม่ป้อน


Mom feeding its chick 1


แล้วแม่ก็ป้อน


Mom feeding its chick 2

บินไปบินมาไม่รู้กี่เที่ยว ไปหาอาหาร แล้วกลับมาป้อน
ตอนจะป้อนเจ้าตัวน้อยร้องเสียงลั่นทุกที
ได้ยินเสียงก็รู้ว่าแม่มาแล้ว
เหนี่อยแทนแม่นกกว่าลูกน้อยจะอิ่ม
มันเป็นยอดคุณแม่ และยอดคุณพ่อ เพราะมาด้วยกันตลอด

พอลูกอิ่มแล้วก็กก แม่เองก็เหนื่อย


Mother Bul Bul brooding its chick 1

เห็นแล้วอิ่มอุ่น


Mother Bul Bul brooding its chick 2

นกปรอดคู่นี้มีลูกแค่ตัวเดียว มันเป็นลูกโทน
แต่เราไม่แน่ใจว่า นกปรอดคู่อื่นจะมีลูกมากกว่าหนึ่งตัวไหม
ยังรอดูว่า เจ้าลูกนกนี่จะเป็นหญิงหรือชาย
เพราะแม่นกขนบนหัวจะเนียนเรียบ
ส่วนพ่อนกขนบนหัวจะตั้ง

เราทุกคนในบ้านรู้สึกตรงกัน เหมือนมันเป็นสมาชิกในครอบครัว
ตื่นมาตอนเช้าก็วิ่งไปดูรังนกก่อนอื่น
ตกค่ำเข้าบ้านแล้วก็แหวกม่านดูตลอด
ดูแล้วมีความสุข อิ่มใจ
รังของมันอยู่ใกล้มาก ๆ ค่ะ

เราไม่ได้ให้อาหารมันเหมือนที่เราให้อาหารนกเขาหลวงและนกเขาชวา
เพราะเห็นมันกินดอกราชาวดีที่ตอนนั้นบานเต็มต้น
เห็นมันจับหนอนมาป้อนลูก ก็ต้องให้มันหาเอง
พ่อแม่คู่นี้ขยันมาก ไม่ว่าจะบินไปไหนก็วนกลับมาดูไข่บ่อยมาก
พอลูกออกจากไข่ มันก็เลี้ยงลูกอย่างดี
แต่แม่ก็ดูเอี่ยมอ่องไม่ทรุดโทรม พ่อนกก็เหมือนกันค่ะ

ทั้งคนและนกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
น่าจะจบตรงนี้นะคะ
แต่ยังค่ะ เรื่องราวยังไม่จบ
เรามาติดตามลูกนกตอนมันบินครั้งแรกกันนะคะ
เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลย

มะลิซ้อนค่ะ มะลิที่บ้าน / Rose Jasmine 


*




หน้าเว็บ