แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อร่อย Marvelous Foods แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อร่อย Marvelous Foods แสดงบทความทั้งหมด

6.3.58

วันอาทิตย์เป็นมิตรกับครัว - บะหมี่ราดหน้าไก่ โก้ยซี้หมี่



วันหนึ่งอยากจะทานบะหมี่ราดหน้าไก่ใส่หน่อไม้กับเห็ดสามอย่างกับซ้อสเปรี้ยว
ต้องการเส้นนุ่มนวลเหนียวและไม่ทอด ซ้อสราดหน้าไม่หวาน

เอาเส้นบะหมี่อย่างดีออกจากตู้เย็น คลี่ไว้ให้หายใจในอุณหภูมิห้อง
สะบัดผงแป้งขาว ๆ ออกเยอะ ๆ

แช่ต้นหอมผักชีในเบ้คคิ่งโซดา เผื่อว่ามีสารพิษตกค้าง

ล้างไก่แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำหรือตามความพอใจ
หมักไก่กับซีอิ้วขาว ซ้อสหอยนางรม (นิดเดียว) พริกไทยขาวป่น และซ้อสเปรี้ยว

ล้างหน่อไม้ดองที่แพ็คในถุงให้สะอาดยิ่งขึ้น ใส่มากน้อยตามความพอใจ
หั่นเห็ดสามอย่าง ขาดไม่ได้คือเห็ดหอม

หั่นต้นหอมผักชึที่ล้างสะอาดแล้วเป็นท่อน ๆ 

ตั้งน้ำให้เดือดพล่านใส่เกลือสมุทรลงไปในน้ำไว้ลวกบะหมี่

เตรียมน้ำเย็น ๆ ไว้แช่บะหมี่ที่สุกขึ้นมาจากหม้อลวกไว้ถอนความร้อน เส้นจะได้ไม่เละ

น้ำเดือดพล่านแล้ว แบ่งบะหมี่ลงไปลวก
สุกแล้วใส่ลงไปในน้ำเย็นทันที เส้นจะไม่ติดกัน
ลวกบะหมี่ที่เตรียมไว้ทั้งหมด และแช่น้ำเย็น
พอคลายความร้อนแล้ว เทน้ำออก ให้สะเด็ดน้ำ
ใส่ลงในชามเสิร์ฟเพื่อทำให้สุกในไมโครเวฟอีกครั้ง (เมื่อทำซ้อสราดหน้าเสร็จ)


ถ้ามีหนังไก่ มักจะแยกออกจากเนื้อ คลุกเกลือ แล้วทอดจนน้ำมันออกหมดด้วยไฟไม่แรง
ตักหนังทอดกรอบออกจะมีน้ำมันไก่เอาไว้ผัด
โปรดใช้น้ำมันอย่างทนุถนอมตัวเองและคนใกล้ชิด ^^

ใส่เนื้อไก่หมักลงไปผัดไฟแรงให้ไก่สุก
ใส่หน่อไม้เสันลงไปผัด ๆ ๆ
ใส่น้ำสะอาดหรือน้ำซุปไก่ (ถ้ามี)
ต้มปุด ๆ จนหอม

ระหว่างนี้ผสมแป้งมันกับน้ำสะอาด อย่าให้เหนียวมาก

หันไปใส่เห็ด รอให้สุก ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่หมักไก่
ปรุงไปชิมไป
ใครอยากใส่ผงชูรส โอ๊ะ โน้ โน
ใส่น้ำตาลปลาย ๆ ช้อนแทน กระจิริดนิดเดียว
รสชาติได้ที่หรือยังคะ
ได้แล้วใส่แป้งมันผสมน้ำลงไป พอใสปิดไฟทันที
ใส่ต้นหอมผักชีด้วยนะคะ

กระฉอกซ้อสเปรี้ยวใส่ถ้วยเล็กเผื่อคนชอบเปรี้ยวกว่านี้
ทำน้ำส้มพริกดองเผื่อคนชอบเคี้ยวพริก

ใส่บะหมี่ที่รออยู่เข้าไมโครเวฟ ไฟแรงแป้บนึง
ราดหน้าด้วยซ้อสที่เตรียมไว้ทันที ไม่งั้นเส้นจะติดกัน
อย่าลืมโรยหนังไก่กรอบ ๆ เค็ม ๆ ไว้ข้างบน
ทานได้แล้วค่ะ




อร่อยนะคะ




*





17.1.57

คริสต์มาสต์ปีนี้ 2014 (2) อาหารบนโต๊ะ / Christmas This Year 2014 (2) Food on the table



คริสต์มาสต์ปีนี้ กุหลาบที่บ้านบานจนไม่ต้องนับ
หอมกรุ่นตรงทางเข้าบ้าน
กลิ่นหอมเดินทางเข้ามาข้างในเพราะประตูที่เปิด ๆ ปิด ๆ




คืนก่อนวันงาน ทำสวีดิชมีทบอลไว้ล่วงหน้าถึงสามกิโล
ตกลงกันว่าจะค่อยทยอยอาหารออกมา จะไม่เป็นชุดใหญ่เหมือนปีก่อน
อาหารเยอะ ๆ ทำให้อิ่มก่อนทาน
 
เรามีแขกมาพักที่บ้านเป็นสาวจีนบินมาจากปักกิ่ง
เธอพบกับบิ้คเจพี่ชายคนโตของบ้านที่สวีเดน
สองคนนัดมาพบกันที่นี่
ปีนี้ขาดแจนกับเจสันทั้งที่ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วแต่ก็มาไม่ได้
อาทิตย์หนึ่งก่อนเดินทาง แจนพบว่าชีวิตน้อย ๆ เพิ่งมาอยู่ด้วย
คนจะเป็นแม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้หมอ

 เสียงหัวเราะดังเป็นระลอก สาวจีนช่างคุย แล้วเธอก็ตลกด้วย
เตรียมผลไม้หั่นเป็นลูกเต๋ามีส้มโอสีชมพูกับสีครีม
สับปะรด แคนทาลูป ส้มจีน ใส่ขนุนด้วย
เสร็จแล้วก็เอาแช่ไว้ในน้ำหวานที่ทำจากบราวน์ชูการ์
เป็นน้ำหวานใส รสอ่อน ๆ ไม่ใช่น้ำเชื่อม
ใส่ตู้เย็นไว้

ใกล้ค่ำผสมพันช์เริ่มด้วยน้ำสตรอเบอร์รี่เข้มข้น (ไม่มีน้ำตาล) หวานเปรี้ยวในตัว
น้ำส้มคั้น น้ำทับทิม น้ำแตงโม น้ำสับปะรด ไม่ใส่น้ำตาลเพราะหวานอยู่แล้ว
ใส่นำแข็ง
เตรียมแอบโซลูดวอดก้าไว้พร้อม แช่ไว้ในช่องแข็ง แช่ยังไงก็ไม่เป็นน้ำแข็ง
เรามีแอคราวิท มีไวน์แดง ไวน์ขาวพร้อม
และแน่นอนเรามีเบียร์


 


แขกของเราทยอยมาเรื่อย ๆ แขกสองคนสุดท้ายมาถึงตอนห้าทุ่ม
ครึ่งนึงเป็นคนที่บินมาจากที่อื่น
เป็นคริสต์มาสต์ที่เสียงหัวเราะดังมากที่สุด หลายคนเป็นเพื่อนจากตอนเด็ก
บางคนก็เป็นคนใกล้ของเพื่อน ๆ
คนใกล้ที่อยู่ไกล
อาหารถูกทยอยออกมาเรื่อย ๆ 

ก่อนอาหารเราเสิร์ฟพันช์ หลังแก้วแรก ผู้ชายก็หันเหไปดื่มเบียร์
อาหารก็เหมือนกับอาหารคริสต์มาสต์ทุกปี
เริ่มด้วยแฮร์ริ่งกับแซลมอนรมควัน ทานกับไวน์ขาว
จานหลักมีแฮมทานกับสลัดมันฝรั่งทำเอง เพิ่มรสชาดด้วยดีชองมัสตาร์ด
มีมีทบอล  ปีนี้บิ้คเจกับเจดีบอกว่าไม่ตองทำบราวน์ซ้อส แต่ทำแตงกวาดองเตรียมไว้ตั้งแต่คืนก่อน
ของหวานมีช้อคโกแล็ตเค้ก ฟรุ๊ตสลัดที่คนชมกันมากว่ารสชาติสดชื่น
อ้อ ต้องไม่ลืมว่าเจดีเป็นดีเจของค่ำคืน




ถ่ายรูปอาหารไว้นิดหน่อย เอามาเก็บไว้ที่นี่
บิ้คเจบอกว่ามีทบอลที่ทำเป็น "เดอะ เบ้สท์" :D
เรียนรู้มาจากสุภาพสตรี ตัวละครใน "แสงแดดในห้องใต้หลังคา" ลงไว้ที่ jasminemoment ค่ะ
วันที่เธอสอนทำมีทบอล ยังทำให้ยิ้มเมื่อนึกถึงจนทุกวันนี้

หลังอาหารก็ออกมาคุยกันต่อที่ข้างนอกจนดึกดื่น
คริสต์มาสต์ปีนี้เป็นคริสต์มาสต์ที่ดี

เหมือนคริสต์มาสดอกใหญ่ในสวน

ลงรูปเก็บไว้ที่นี่เพราะปีก่อนลงไว้ที่ jasminemoment

วันที่ 13 เป็นวันของคนูท ภูตที่มาเก็บกวาดคริสต์มาสต์
แต่ที่บ้านจะเก็บวันที่สิบสี่มาแต่ไหนแต่ไร
เพราะวันที่สิบสี่มกราคมเป็นวันเกิดของผู้เป็นที่รักของที่บ้าน

จบเรื่องเล่าด้วยภาพกุหลาบอังกฤษ "โรซาลินด์" แสนหอม


ขอส่งความสุขให้คนอ่าน
ขอให้ความสุขเข้ามาเรื่อย ๆ
และ
เป็นสุขอยู่เสมอนะคะ




*




 

4.8.56

วันอาทิตย์เป็นมิตรกับครัว สตูว์ไก่ / Chicken Stew

วันอาทิตย์มักเป็นวันที่สงบเงียบ เป็นวันที่ได้เข้าครัวทำอะไรง่าย ๆ ทาน
เวลาที่เหลือส่วนใหญ่ก็ขลุกอยู่ในสวน

สองอาทิตย์ที่ผ่านไปทำสตูว์ไก่
คลุกไก่กับเกลือและพริกไทยดำที่บดเองสด ๆ
แล้วทอดให้เหลืองกรอบ ข้างในไม่สุกไม่เป็นไรเพราะจะเคี่ยวต่อ


ใส่หอมใหญ่ลงไป ตักไก่ทอดมาวางไว้ข้างบน
ธรรมดาแม่จะทอดทีละอย่าง คือตักไก่ขึ้นแล้วทอดหอมหัวใหญ่
 พวกลัดขั้นตอนก็ทำอย่างนี้


ทีนี้ก็ใส่มันฝรั่งลงไป ตักไก่กับหอมหัวใหญ่มาไว้ข้างบน 
^^ แม่ส่ายหน้าอยู่บนฟ้า
แล้วบอกว่า ทำไมไม่ทอดทีละอย่างล่ะลูก


รอจนกลิ่นหอมโชยออกมาก็ใส่มะเขือเทศ
ก่อนหน้านี้ไม่ผัด 
แต่พอใส่ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซ้อสแม็กกี้(นิดหน่อย) เกลือ พริกไทยดำป่น
ก็ผัดคลุกเคล้าแบบไม่ซีเรียส
ปล่อยไว้ให้เกรียม ๆ ที่ข้างนอก ใช้ไฟสูงตลอดเลย
เกรียมแล้วมันจะหอม


พอหอมมาก ๆ แล้วก็เติมน้ำจากเครื่องกรองให้ท่วมแล้วปิดฝา
รอให้เดือด
พอเดือดแล้วทีนี้ก็เคี่ยวไฟรุม ๆ ไปเรื่อย ๆ
(ตอนนี้มีอะไรทำก็ไปทำได้)
เคี่ยวไป ๆ ให้น้ำกระดูกออก ปิดฝาแง้มไว้นิดนึงให้ไอระเหยออกมา
น้ำแกงจะงวดลง
ถ้าชอบค่น ๆ ก็เคี่ยวนานหน่อย

โอ กลิ่นหอมมาถึงแล้ว พร้อมชิมรสเค็ม ๆ มัน ๆ เปรี้ยว ๆ
 สตูว์ได้ที่รอรับประทาน


นี่คะสตูว์ที่เคี่ยวได้ที่ ทานกับข้าวร้อน ๆ  ทานเปล่า ๆ ก็อร่อย
เช้ารุ่งขึ้นอุ่นให้ร้อนทานกับขนมปังปิ้งอร่อยมาก
หอมใหญ่ละลายเช่นเดียวกับมะเขือเทศ มันฝรั่งก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
น้ำสตูว์ก็เข้มข้นขึ้น น่าจิ้มขนมปัง


*





8.2.56

บรี / Brie

Brie Jan brought from Australia

เป็นคนชอบเนยแข็ง
แต่ไม่ได้ทานเนยแข็งทุกชนิด

บรีนี่เป็นเนยแข็งชนิดนิ่มที่ต้องตัดมาวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องสักพัก
เพื่อให้มัน"หายใจ"
มันจะอ่อนลง
เมื่อเข้าปากจะเหมือนครีมข้น ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ หอม ๆ



บรีทำจากนมวัวบางเบาไม่เข้มข้น
บางคนเอาไปเข้าเตาอบก่อนรับประทาน
แต่แค่ความร้อนในปากก็เพียงพอที่จะทำให้บรีละลาย

บางคนทานบรีกับแยมผลไม้ บางคนโรยถั่วป่น
บางคนทานกับขนมปังปิ้ง
ส่วนฉันทานเปล่า ๆ

ครั้งแรกทานที่สวีเดน
สุภาพสตรีผู้แนะนำให้ทานท่านตัดเปลือกห่อหุ้มออกหมด
ส่งให้เฉพาะเนื้อสีเหลืองที่แสนเอร็ดอร่อย
ใครบางคนบอกว่า "นั่นคือความรัก" เพราะเปลือกบรีรับประทานได้

ต่อมา ก็เสาะหาบรีทำในสวิส ฝรั่งเศสหรือเดนมาร์คมารับประทาน
โดยไม่ทานเปลือก


คราวนี้ แจนและเจสัน หอบของฝากหลายอย่างจากควีนส์แลนด์
รวมทั้งบรีด้วย
ตอนเจดีทานคำแรก ก็กระโดดขึ้นกระโดดลง
เธอว่ากลิ่นมันแรง ทั้งที่เป็นคนชอบบรี
ส่วนฉันชอบมันมาก เลยถ่ายรูปไว้เตือนแจนกับเจสันว่า
อย่าลืมนะแบรนด์นี้






*





3.12.55

บรันช์วันหยุด / Sunday Brunch

วันหยุดตื่นสาย น้ำผลไม้กับกาแฟ
รวมยอดมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน
ทำอาหารง่าย ๆ รับประทาน
ที่บ้านของเรา


ก๋วยเตี๋ยวลาดหน้ายอดผักกับเห็ดสามอย่าง
เส้นก๋วยเตี๋ยวขาว ๆ อย่างดี ไม่จำเป็นต้องมีสีซีอ๊ว
กะทะหนาไฟร้อน ๆ เส้นสีขาวสะดุ้งไฟ
หอมกลิ่นเกรียมจากกระทะ
น้ำราดหน้าอย่าให้เหนียว
วันนี้ได้โปรตีนจากพืช

สารพัดผักชุบแป้งทอดจิ้มซอสพริกสูตรดั้งเดิม

 
หอยทอดทานกับซ๊อสพริก

ถ้าไกลบ้าน ไม่อาจกระโดดขึ้นรถไปซื้อหอยทอดเจ้าอร่อยปากซอย
ก็ทำทานเอง
หอยแมลงภู่ชุบแป้งโกกิ ทอดกรอบ ใส่ไข่ลงไปผัดถึงจะหอม
ผัดถั่วงอกกับต้นหอมใส่น้ำปลา
จัดใส่จาน โรยพริกไทยและผักชี
เทซ๊อสพริกสูตรดั้งเดิมใส่ถ้วย
ก็ได้การ


อาหารสามัญอันโอชา ครบหมู่เหล่า 

ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง น้ำตก
บรันช์ยามบ่าย


โอ๊ะโอ มาเป็นชุดเพราะไม่ได้ทำเอง
ส้มตำครกไม้เจ้าอร่อย

ปีนี้เจที่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตา
สองเจโหยหาอาหารบ้านเกิด
ลงภาพเรียกน้ำย่อยก่อนมาถึงในไม่ช้า



*

25.11.55

วันอาทิตย์ผูกมิตรกับครัว ซี่โครงหมูทอด / What I cooked last Sunday



ยามห่างรสมือแม่ คนห่างบ้านก็คิดทำอาหารที่หน้าตารสชาติคล้ายกับอาหารบ้าน
สูตรซี่โครงหมูนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นสูตรของตัวเอง
ทำทีไร ใคร ๆ ก็บอกว่าตามกลิ่นมาเลยทีเดียว
เกิดขึ้นเพราะอยากทานหมูแดดเดียว
หมูแดดเดียวที่บ้านไม่ตากแดด แต่ทอดด้วยการใช้ไฟต่ำสุดจนแห้งกรอบ



ซี่โครงหมูทอดสูตรจัสมิน / Fried spare ribs: Jasmine Recipe

เอาซี่โครงหมูชิ้นใหญ่อวบล้างน้ำ สะเด็ดน้ำให้แห้ง ใช้กระดาษครัวซับ ๆ อีกหน่อย
หมูหนึ่งกิโลกรัม มากน้อยกว่านั้นนิดหน่อยก็ได้ แต่อย่าน้อยเกินไปเดี๋ยวไม่พอทานค่ะ
ทอดแล้วมันจะหดไปมากเลย

เครื่องปรุง
มะนาวหนึ่งลูก น้ำตาลหนึ่งช้อนโต๊ะ และเครื่องทำให้เค็ม ประกอบด้วย ...
เกลือหนึ่งช้อนโต๊ะ ซ้อสแม็กกี้หนึ่งช้อนชา น้ำปลาหนึ่งช้อนชา ซีอิ๊วขาว
พริกไทยดำบดหยาบ ๆ

วิธีทำ

นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกกับซี่โครงหมู หมักไว้ก็ดีแต่ไม่หมักก็ได้ค่ะ อย่าลืมคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ตั้งกระทะเทน้ำมัน ไฟต่ำ ๆ หน่อย เกือบต่ำสุด ไม่อย่างนั้นส่วนผสมที่เป็นน้ำตาลจะไหม้
แล้วก็ทอด (แบบไม่ยืนเฝ้า ไปนั่งหน้าคอมเล่นเน็ตก็ได้ หรือจะชมนกชมไม้ก็แล้วแต่ค่ะ)
รอกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาเชิญชวน 
ยังค่ะ ยังไม่ขยับ ยังเล่นเน็ตต่อ 
ถ้าทีบ้านมีน้องหมา น้องหมากระสับกระส่ายแบบอยู่ไม่ติดเมื่อไหร่ ก็ใกล้เวลาจะขยับแล้วค่ะ
แต่ถ้าจะให้แน่ใจก็รอเสียงหมาเพื่อนบ้านโน้น(ไกล)เริ่มร้องโหยหวน ก็ลุกเลยค่ะ
ลุกไปกลับอีกด้านลง คราวนี้อาจต้องหรั่ไฟลงอีกเพราะกระทะร้อนมากแล้ว
กลิ่นมันจะหอม ๆ หวาน ๆ 
พอกลิ่นหอมถึงที่สุดก็คีบมาวางไว้บนกระดาษครัวซับน้ำมันหน่อยค่ะ
ทีนี้ก็พร้อมทานแล้ว

จะให้ดีต้องมีข้าวผัดค่ะเพราะน้ำมันที่ใช้ทอดซี่โครงหมูจะอร่อยมาก
เปลี่ยนกระทะใหม่ เทน้ำมันทอดหมูลงไปนิดเดียววววว นะคะ
โยนหอมแดงซอยลงไป
ใส่ข้าวลงไป โรยพริกขึ้หนูหั่นลงไป ใส่น้ำปลาหรือเกลือหน่อยนึง
เวลาจะทานก็บีบมะนาว
ทานกับแตงกวาและผักชึเข้ากันดีค่ะ

อย่าลืมน้ำซุปใสใส่ผักซักถ้วย
อร่อย !

แหม มาแบบเป็นมื้อเลยเชียว


  



































































































































































































22.7.55

วันอาทิตย์ ผูกมิตรกับครัว Sunday lunch


ซีซาร์สลัด ภาพนี้ลงให้ได้อารมณ์รับประทาน ณ กมลถ่ายรูปไว้นานแล้วค่ะ

คนเคยจากบ้านทุกคนต้องคิดถึงกับข้าวบ้านแน่นอน
เมื่อเป็นอย่างนั้น เราจึงต้องทำทานเอง
จำได้ว่าโทร.หาแม่บ่อยแค่ไหน
โทร.ขอสูตรอาหารของบ้านเรา
บางสูตรก็ขอแล้วขออีกเพราะทำออกมาแล้วไม่เหมือน
เป็นไปได้ว่าขาดรสมือแม่

ตอนนี้อยากทานอะไรก็ได้ทาน ทำไม่เป็นก็ได้ทานอยู่ดี
(ทานในที่นี้เป็นภาษาพูด มาจากคำว่ารับประทาน คำที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายใช้พูดด้วยตั้งแต่ยังพูดไม่เป็น)
ได้ทานเพราะมีคนทำให้ ไม่มีใครทำให้ก็หาที่อร่อยๆไปรับประทาน
แต่ก็มีอาหารบางอย่างที่เครื่องเยอะ แล้วก็ไม่ทำสุก
 ต้องเลือกมือคนทำ
เพราะต้องใช้มือปอก หั่น ซอย

อาหารที่อยากทานมากวันอาทิตย์ก่อนคือ...

ขนมจีนซาวน้ำ

จัสมินเอากุ้งแห้งที่ใส่น้ำสุกเข้าไมโครเวฟแป๊บนึง เทน้ำทิ้ง
ใส่ครกตำจนฟูใส่ถ้วยไว้พูน
หั่นสับปะรดฉ่ำน้ำเป็นชิ้นเล็กๆ
ซอยกระเทียมสดเป็นชิ้นบางๆ
ซอยขิงเป็นเส้นเล็กๆ
หันมะนาวเตรียมไว้สามลูก
น้ำตาลทรายใส่ถ้วยไว้
หั่นพริกขี้หนูอวบอิ่มเพิ่งเด็ดจากต้นที่รวมหัวกับลุงจูคนสวนปลูกไว้
เตรียมขนมจีนจัดวางบนจาน
เอากระทิตั้งไฟ ใส่เกลือนิดหน่อย
ปกติต้องใส่ลูกชิ้นปลาชั้นดี เมื่อไม่มีเลยไม่ใส่
ทีนี้ก็เรียงขนมจีนลงบนจาน
ตักสับปะรดวางลงไปเยอะแยะ
โรยกระเทียมสด พริกขี้หนูหั่น
วางขิง โรยกุ้งแห้งฟู
โรยน้ำตาล
บีบมะนาว
ใส่น้ำปลา
ราดกระทิที่ไม่มัน

เวลาจะทานก็คลุก



ขนมจีนซาวน้ำ ทำเอง

ก่อนเตรียมเครื่องขนมจีนซาวน้ำ ก็หุงข้าวมันไว้ทานกับส้มตำไทยทำเอง

ข้าวมันที่ว่านี้ แม่เคยทำให้ทานกับส้มตำ แกงเขียวหวาน 
แล้วก็เนื้อเค็มฉีกฝอยโรยหอมแดงเจียวจนกรอบ
แต่ครั้งนี้ไม่ได้ทำเนื้อเค็มฝอยค่ะ
ทำน่องไก่ทอดแทน
ข้าวมันหุงกับหางกระทิ ใส่เกลือนิดหน่อย
ใส่ในโถกระเบื้องเข้าไมโครเวฟ ไฟต่ำ สามสิบนาที

หันมาทอดไก่
ตำส้มตำไทย
ทานสองคนกับเจดี


ส้มตำไทย ทำเองกับมือ
ภาพถ่ายง่ายๆไม่ได้จัดอะไรนะคะ
ถ่ายไม่ครบด้วย น่าทาน หิวเต็มที


ลงให้ได้อารมณ์คิดถึงอาหารบ้าน

สำหรับคนไกล

คนที่ชอบทานขนมจีนซาวน้ำ


และ

แจน

^ ^



หน้าเว็บ